ตาสวย ชีวิตเปลี่ยน
สวัสดีค่ะ จะมาเล่าประสบการณ์การแก้ตาสองชั้น + แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงค่ะ เราเองผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมายกับการทำศัลยกรรมตาสองชั้น ก่อนจะมาถึงวันนี้ เรียกได้ว่าผ่านดราม่ามาก ฝากรีวิวนี้เป็นเป็นข้อมูลให้กับเพื่อนๆที่กำลังศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการทำตาสองชั้นและผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้เก็บไว้เป็นข้อคิดกันนะคะ
Before ก่อนแก้ตาครั้งที่ 3
การทำตาสองชั้นที่ผ่านมาของเราไม่ตอบโจทย์เลย ครั้งที่ 1 และ 2 ทำมาจากที่อื่นค่ะ ซึ่งเป็นการทำตาสองชั้นปกติ ไม่ได้แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง อาการตาปรือจึงเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชั้นตาก็หนาและสูงมาก มีชั้นตาหลายชั้น ชั้นตาไม่เท่ากัน หน้าดูเหนื่อย ดูเพลีย ดูเศร้า มีอาการลืมตาได้ไม่สุด หนังตาหนักๆ มีความตึงๆ รั้งๆ ที่หนังตามาก หมอที่เก่าตัดหนังตาเราออกไปเยอะด้วยค่ะ เพื่อนๆชอบทักว่าทำไมดูเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลาเลย หน้าเราก็ดูแก่ ทำให้สูญเสียความมั่นใจมาก
และนี่คือไทม์ไลน์การทำตาสองชั้นของเราเองค่ะ
ครั้งที่ 1 – ไปทำตาสองชั้นแบบเย็บจุด ซึ่งทุกคนจะรู้ว่าการเย็บจุดมันจะหลุดได้ง่าย คุณหมอจะทำการเย็บชั้นตาไว้ 3 จุด ให้เป็นตาสองชั้น ไม่ใช่การทำตาสองชั้นแบบถาวรเหมือนการผ่าตัดค่ะ เมื่อเวลาผ่านไปชั้นตาที่เย็บไว้หลุดลงมา ชั้นตาก็จะกลับมาเหมือนเดิมค่ะ ในสมัยก่อนจะมีคนนิยมทำตาแบบเย็บ 3 จุดเยอะมาก เพราะเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในปัจจุบันแล้วค่ะ
ครั้งที่ 2 – เมื่อชั้นตาที่เราเย็บ 3 จุดไว้หลุดหมด เราจึงไปทำตาสองชั้นอีกที่หนึ่ง เขาทำเป็นแบบกรีดยาว แล้วเขาก็ตัดหนังตาเราออกไปเกือบหมดเลย ตอนนั้นเราคิดว่าเราก็เลือกคลินิกที่มีชื่อเสียงแล้วนะ จ่ายก็แพงด้วย แต่ทำไมตาเราถึงพังแบบนี้ ก็ได้แต่ทนใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นนานเหมือนกันนะคะ รู้สึกว่าโหงวเฮ้งเราไม่ดีเลย ตามันเศร้า ตาสองข้างไม่เท่ากัน ชีวิตก็เลยเศร้า ทุกอย่างมันดาวน์ลง แย่ลง คงเป็นเพราะเราจิตตกด้วยค่ะ ก่อนจะแก้ตาครั้งใหม่เลยต้องศึกษาให้มากขึ้น
ครั้งที่ 3 – ก่อนแก้ตาครั้งนี้หาข้อมูลมาเยอะมากค่ะ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ไม่เคยได้ยินชื่ออาการนี้มาก่อน มารู้จักกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจากในอินเตอร์เน็ตค่ะ เสิร์จดูแล้วเจอรีวิวมากมาย เห็นรีวิวแล้วคิดว่าเราเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแน่ๆ เพราะอาการมันใช่มาก ก่อนที่เราจะมาสะดุดตารีวิวของหมอยุ้ย จาเรมคลินิก ชอบที่รีวิวของหมอยุ้ยทุกเคสมีความเป็นธรรมชาติมาก ชั้นตาไม่หนา ไม่สูง และคุณหมอก็เป็นจักษุแพทย์เฉพาะทางด้วยค่ะ ทำให้เรารู้สึกว่าวางใจมากว่าการแก้ตาด้วยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตัวจริงครั้งนี้จะเราจะต้องสวย งานจะต้องจบ
ต้องไม่มีแก้ตาครั้งที่ 4 อีก ต้องสวยและจบ
เราเข้ามาปรึกษาคุณหมอยุ้ย ที่จาเรมคลินิก เราบอกคุณหมอเลยว่าขอแค่ดีขึ้น 5 % ก็ดีใจแล้ว แต่คุณหมอบอกว่าต้องดีขึ้นมากกว่านั้นแน่นอน คุณหมอตรวจเช็คอย่างละเอียดแล้วบอกว่าตาเราเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เกิดจากการที่ไปทำตาสองชั้น แล้วพลาดไปทำให้กล้ามเนื้อตาบาดเจ็บ ส่งผลให้เรามีอาการตาปรือ ชั้นตาหลายชั้น ลืมตาได้ไม่สุด และด้วยความที่คลินิกเก่าเขาตัดหนังตาเราออกไปเยอะมาก คุณหมอยุ้ยก็เลยต้องเติมไขมันในตาให้เราด้วย
แก้ตาสองชั้น ต้องจักษุแพทย์เฉพาะทาง
ขอเล่าต่อถึงวันที่มาผ่าตัดเลยนะคะ มาถึงคลินิกก็เตรียมตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บผม ล้างหน้าให้สะอาด คุณหมอเริ่มลงมือตั้งแต่ 6 โมงเย็น เสร็จออกจากห้องผ่าตัดตอน 5 ทุ่มครึ่งแล้ว ออกมาจากห้องผ่าตัดก็ดึกเลย ใช้เวลาผ่าตัดไปทั้งหมด 5 ชั่วโมงครึ่ง นี่คือรวมเวลาที่เติมไขมันในตาด้วยนะคะ เป็นการนำไขมันที่หน้าท้องของเรามาเติมในตาค่ะ หลังทำตาเสร็จรู้สึกว่าคุ้มค่ามากกับการรอคอยมากค่ะ คุณหมอผ่าตัดแบบละเอียดมาก เพราะเคสของเรายากมากจริงๆ คุณหมอจะบอกตลอดว่าตอนนี้ทำถึงขั้นตอนไหนแล้ว และเรารู้สึกว่าคุณหมอมือเบาจริงๆ ถึงจะใช้เวลาแต่เราก็ไม่เจ็บเลยนะ
แก้ตาครั้งนี้ ต้องไม่เป็นตาหอยแครง
หลังผ่าตัดก็รู้สึกได้เลยว่าตาเราไม่บวมมาก ไม่เป็นตาหอยแครงเหมือนครั้งที่แล้ว ตาแค่บวมขึ้นเล็กน้อยเอง เพื่อนยังทักเลยว่าทำไมรอบนี้ตาเราไม่บวมล่ะ แสดงว่าคุณหมอมือเบามาก ขนาดเราทำตามาแค่ 16 วัน แต่ตาเราดูโอเคมากเลยนะ มันดูสดใสขึ้นและต่างจากเดิมมาก รู้เลยว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว
หลังจากตัดไหม ตายุบบวมและเข้าที่มากขึ้นแล้ว
ช่วงพักฟื้นเราพยายามดูแลตัวเองให้ดี ระวังทุกเรื่องเลยค่ะ เพราะกลัวและไม่อยากกลับไปเป็นตาหอยแครงแบบเมื่อก่อนแล้ว ช่วงสัปดาห์แรกตาเราอาจจะบวมมากกว่าคนอื่น เพราะเราเป็นเคสแก้ การผ่าตัดจึงใช้เวลามากกว่า และยากกว่า คุณหมอต้องเลาะพังผืดในตาออก ต้องเติมไขมันในตา และอีกหลายขั้นตอน ไม่แปลกเลยที่จะบวมช้ำ การพักฟื้นเลยต้องประคบมากหน่อย เราเองก็เตรียมใจมาแล้วสำหรับอาการหลังทำเหล่านี้ แต่พอมาถึงช่วงนี้จริงๆกลับบวมช้ำน้อยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ต่างจากการทำตาสองชั้นครั้งที่แล้ว ที่บวมและช้ำอยู่นานเป็นเดือนๆ คุณหมอยุ้ยเก่งมากค่ะ ต้องขอบคุณจากใจเลย
หลังแก้ตาสองชั้นรู้สึกมั่นใจขึ้น ตาเปลี่ยนชีวิตจริงๆ
ตอนนี้ทุกคนที่เจอเราจะทักว่าหน้าเด็กลง ดวงตาดูสดใส มันยิ่งทำให้เรามีกำลังใจในการลดหุ่นมากเข้าไปอีก กำลังใจดีน้ำหนักก็ลดลงเรื่อยๆ เพราะว่าตาเราสวยแล้ว เราก็มีแรงบันดาลใจในการไปออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ความมั่นใจในการใช้ชีวิตก็เพิ่มขึ้น อะไรที่เราไม่เคยทำก็กล้าทำ มีความรู้สึกว่าตัวเองน่ามองขึ้น กล้าที่จะแต่งตัว แต่งหน้า ได้เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ บอกได้เลยว่าตาเปลี่ยนชีวิตมากๆ
เปลี่ยนลุคส์ใหม่ หลังแก้ตาสองชั้น
Before & After
เราขอจบรีวิวแก้ตาสองชั้นครั้งที่ 3 แต่เพียงเท่านี้ค่ะ ขอให้ทุกคนที่เป็นเคสแก้ตา มีกำลังใจที่ดีในการแก้ตาให้กลับมาสวยเหมือนเดิม ขอให้เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เลือกหมอเก่งๆ เป็นหมอที่เป็นหมอเฉพาะทาง เป็นจักษุแพทย์นะคะ จะได้ใช้ชีวิตกันอย่างมั่นใจค่ะ