ไม่มั่นใจเพราะตาไม่เท่ากัน
ก่อนทำตามีอาการตาไม่เท่ากันค่ะ ทั้งๆที่เป็นคนมีตาสองชั้นชัดเจนอยู่แล้ว เราเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว เวลาถ่ายรูปรู้สึกว่ามันไม่สวย เลยทำให้ไปไหนก็ไม่อยากถ่ายรูป ยิ่งตอนนี้เป็นวัยทำงานแล้ว เราต้องประชุมงานออนไลน์ผ่านระบบ Zoom จะเห็นหน้าคนที่เราคุยงานด้วยชัดมากค่ะ ยิ่งทำให้เราเกิดความไม่มั่นใจ เกิดความกังวลในบุคลิกภาพ เลยอยากปรับปรุงตรงจุดนี้เพื่อพัฒนาบุคลิกภาพให้มากขึ้น เวลาไปเที่ยวก็จะได้ถ่ายรูปสวยขึ้น และนี่ก็คือรูปก่อนทำตาค่ะ
ยิ่งอายุมากขึ้นอาการตาตกก็มากขึ้นตามไปด้วย และเราเป็นคนที่ใส่คอนแทคเลนส์มาตลอด เพิ่งจะมาเลิกใส่ตอนหลังๆนี่เองค่ะ ตอนที่มีอาการตาอักเสบบ่อยๆ จนเปลี่ยนมาใส่แว่นแทน และเริ่มหาข้อมูลการรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
เคยปรึกษาทำตากับทางคลินิกแห่งหนึ่ง
ที่รู้ว่าเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงก็เพราะเคยทักไปปรึกษาทำตากับทางคลินิกแห่งหนึ่งค่ะ ตอนนั้นเขาให้ส่งรูปไปประเมิน แล้วเขาก็แจ้งมาว่าเราเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนะ แต่ที่คลินิกเขาไม่ได้รับทำเคสกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ให้เราไปหาคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ หรือต้องไปรักษาที่โรงพยาบาล
เจอบทสัมภาษณ์ของหมอยุ้ยจากใน Youtube
หาข้อมูลอยู่นาน จนมาเจอบทสัมภาษณ์ของหมอยุ้ยจากใน Youtube ที่คุณหมอไปออกรายการและพูดคุยให้ความรู้เรื่องกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงค่ะ รู้สึกว่าคุณหมอให้ความรู้จนทำให้เราเข้าใจในเรื่องโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ดีขึ้น ก็เลยติดตามเข้ามาดูรีวิวของคุณหมอในเพจจาเรมคลินิก และเข้ามาปรึกษาทำตาค่ะ
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด
คุณหมอบอกว่าเราเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด ก็ตามคาดเลยค่ะ เพราะเป็นมาตั้งแต่เด็กจริงๆ คุณหมอบอกว่าเราแก้ไขตาตกข้างเดียวได้ค่ะ ในข้างที่ตาตกลงมามากๆ ส่วนอีกข้างไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ด้วยสถานการณ์โรคโควิด เลยทำให้เราต้องเลื่อนไป และบางช่วงเราเองก็ไม่ว่าง เลยทำให้ต้องรอนานถึง 1 ปีเลย
แก้ไขตาตกข้างเดียว เป็นงานละเอียดมากจริงๆ
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิดจะใช้เวลาผ่าตัดนานกว่าเคสกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงทั่วๆไป เพราะกล้ามเนื้อตาที่ใช้ในการเปิดปิดตาของเราไม่มีแรง คุณหมอต้องดึงกล้ามเนื้อตาขึ้น แล้วเย็บซ่อมแซมให้แข็งแรง จากนั้นจึงค่อยเย็บแผล แต่ก่อนเย็บแผลปิดก็ต้องดูว่าชั้นตาใกล้เคียงกับอีกข้างแล้วหรือยัง จึงจะปิดงานได้ค่ะ ผ่านมา 3 ชั่วโมง รู้สึกว่าการผ่าตัดตาเป็นงานละเอียดมากจริงๆ
ระหว่างทำก็ไม่เจ็บค่ะ รู้สึกนิดหน่อยตอนที่คุณหมอเย็บชั้นกล้ามเนื้อตา แต่คุณหมอจะบอกตลอดว่าทำอะไรถึงไหนแล้ว ช่วงนี้จะมีความรู้สึกนิดหนึ่งนะ ซึ่งทำให้เราไม่กังวลว่าตอนนี้คุณหมอผ่าตัดถึงขั้นตอนไหนแล้ว
หลังจากกลับถึงบ้านแล้วก็ไม่ปวดแผลเลยค่ะ ไม่ต้องกินยาแก้ปวดเลย เช้ามามีปวดนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้กินยานะคะ กินยาอื่นๆตามปกติ อย่าง ยาฆ่าเชื้อ แค่นี้ค่ะ คุณหมอมือเบามากค่ะ แผลจะบวมสูงสุดประมาณถึงวันที่ 2 – 3 แค่นั้นค่ะ รอยช้ำแทบไม่มีเลย
วางแผนการลางานไว้ 1 อาทิตย์เลยค่ะเพื่อพักฟื้น แต่จริงๆก็ฟื้นตัวไวมากนะคะ ไม่ต้องลางานนานขนาดนั้นก็ได้ แต่เราถือว่าใช้สิทธิ์วันลาไปเลย ถือว่าได้พักผ่อนไปในตัวค่ะ
ไปทำงานอีกทีแผลแห้งแล้ว เจอเพื่อนๆนี่เพื่อนไม่รู้เลยว่าทำตามาแล้ว เพราะหายเป็นปกติมากๆ แต่ตาเราเท่ากันแล้วนะ สวยขึ้นมาก มีแต่เพื่อนๆมาดูว่าเราเป็นอย่างไร ทุกคนบอกว่าสวยมาก
คุณหมอยุ้ยเก่งเรื่องกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
แม้ว่าเคสเราจะเป็นเคสที่แก้ไขตาตกข้างเดียว แต่ผลลัพธ์ออกมาดีมาก มีคนเห็นเราสวยขึ้นก็สนใจอยากทำตาแบบเราเยอะเลยค่ะ ก็แนะนำทุกคนไปเลยว่าให้มาที่จาเรมคลินิกค่ะ คุณหมอยุ้ยเก่งเรื่องกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมากๆค่ะ การทำตาครั้งนี้ถือว่าเป็นการรักษาที่คุ้มค่าและประทับใจมากค่ะ