รีวิวทำตาแบบพลีชีพ!
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวจาเรมคลินิกทุกท่าน และเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่านรีวิวของเรานะคะ วันนี้เราตั้งใจจะมารีวิวแก้ตาตก ด้วยการรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิดกับหมอยุ้ยที่จาเรมคลินิกค่ะ รีวิวให้คุณหมอด้วยความเต็มใจแบบพลีชีพไปเลยค่ะ เนื่องจากผลลัพธ์ที่ออกมานั้นดีเกินคาดมาก เดี๋ยวตามมาดูกันเลยนะคะ
เริ่มจากภาพก่อนทำตาค่ะ
ได้ยินคุณแม่พูดตั้งแต่เราเด็กๆเลยว่าเราตาตก แต่เราก็ไม่รู้ว่านี่คืออาการของโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด เวลาเจอใครทุกคนก็จะถามว่าตาเราเป็นอะไร เพราะตาไม่เท่ากันและตาไม่มีชั้นค่ะ เพื่อนๆที่เจอกันทุกวันเขาก็จะชินกับเรา แต่เวลาที่เราถ่ายรูปหน้าตรงนี่จะเห็นชัดมากเลยค่ะ ทำให้เราอยู่กับความไม่มั่นใจมาตลอด
จนเราเรียนจบและใกล้รับปริญญา ก็เลยอยากจะทำตาสองชั้นให้สวยๆ เพราะตอนรับปริญญาต้องถ่ายรูปเยอะ อยากให้ครั้งหนึ่งในชีวิตของการรับปริญญาของเรามีรูปถ่ายสวยๆ เลยเริ่มหาคลินิกทำตาจากการเสิร์จในอินเตอร์เน็ตค่ะ
คลินิกทำตามีเยอะมาก ต้องเลือกให้ดี
และปัจจุบันมีคลินิกทำตาเยอะมาก ก็ลองเลือกมา 2 ที่ก่อน และลองส่งรูปเข้าไปประเมินที่แรก ปรากฏว่าที่นั่นเขาตอบมาว่าไม่รับทำตาให้เราค่ะ เพราะเราเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด ที่คลินิกเขาจะรับทำแค่ตาสองชั้นเท่านั้นค่ะ
ต่อมาก็สอบถามไปยังคลินิกแห่งที่ 2 พอส่งรูปเข้าไปประเมินแล้วเขาก็แจ้งกลับมาว่าเราเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิดนะ ต้องรักษาด้วยขั้นตอนอะไรบ้าง เขาแจ้งรายการมาเลย แบบ…1 2 3 4 … และแจ้งราคาค่ารักษามาด้วย แต่ราคาแพงมากๆค่ะ
เน้นหาคลินิกที่แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ก็เลยลองหาข้อมูลใหม่อีกรอบ คราวนี้เน้นหาคลินิกที่แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิดโดยตรงเลย ก็เสิร์จมาเจอจาเรมคลินิกที่ติดอันดับต้นๆของคลินิกทำตาที่ทำตาโดยจักษุแพทย์ เลยเข้ามาดูรีวิวค่ะ และทักแชทเข้ามาสอบถาม พี่แอดมินให้ส่งรูปเข้ามาให้คุณหมอประเมินก่อนค่ะ แล้วค่อยนัดวันเข้ามาตรวจอีกที
ติดยกคิ้วเพราะเปลือกตาตกลงมาเยอะ
วันที่มาตรวจคุณหมอบอกว่าเราเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิดที่เป็นทั้งสองข้าง ซึ่งเคสแบบเราหายากมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นกันข้างเดียว และความที่เราเป็นเยอะและเป็นมานานตั้งแต่เด็กๆ เลยทำให้เราก็ติดยกคิ้วด้วยนะ คุณหมอบอกว่าหลังทำเราเราจะดีขึ้นและจะไม่ยกคิ้วแล้ว เพราะการที่เราต้องยกคิ้วเกิดจากการเปลือกตาที่ตกลงมาเยอะ ทำให้เรามองอะไรก็ลำบาก ต้องยกคิ้วช่วยในการมอง เป็นการใช้กล้ามเนื้อหน้าผาก ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆก็จะเกิดริ้วรอยที่หน้าผากเพิ่มขึ้น
ก่อนทำปรึกษาที่บ้านอีกครั้ง
เรากลับมาปรึกษาที่บ้านอีกครั้ง พ่อกับแม่บอกว่าลุยเลย ไหนๆจะทำแล้วก็ไปให้สุด แล้วเราก็ตัดสินใจเลือกรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิดกับหมอยุ้ย เพราะหมอยุ้ยเชี่ยวชาญด้านนี้ค่ะและคุณหมอก็เป็นจักษุแพทย์ด้วย ทำให้เราสบายใจว่าตาของเราอยู่ในมือจักษุแพทย์ ส่วนราคาก็อยู่ในระดับที่เรารับได้ค่ะ ทบทวนข้อดีดูแล้วก็จองคิวเลย
ก่อนจะถึงวันผ่าตัดก็มีกังวลบ้างค่ะ กลัวตาจะไม่เท่ากัน และกลัวชั้นตาออกมาหนาๆ แล้วไม่สวยอย่างที่เราคิดไว้ ที่บ้านก็กลัวเหมือนกันว่าชั้นตาของเราจะหนาหรือเปล่า ก็เลยขอคุณหมอว่าขอชั้นตาที่ดูไม่หนามาก และเข้ากับใบหน้าของเราค่ะ คุณหมอบอกว่าไม่ต้องกังวลนะ หมอจะดูให้ อย่างไรก็ดีขึ้นแน่นอน
เดี๋ยวมาดูภาพหลังทำตากันนะคะ
ตอนผ่าตัดจะเจ็บบ้างตอนช่วงท้ายๆของการผ่าตัดตาข้างขวา เพราะข้างขวามีอาการหนักกว่าข้างซ้าย แต่ก็ทนได้ค่ะ ไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้น ส่วนข้างซ้ายผ่าเสร็จเร็วกว่าและไม่เจ็บค่ะ เรื่องความเจ็บไม่ค่อยกลัวนะคะ สู้มากๆ แต่จะแอบกลัวว่าหลังผ่าตัดเสร็จแล้วตาจะเท่ากันหรือไม่
แต่คุณหมอก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ กับ 5 ชั่วโมงที่ผ่านไป ชั้นตาออกมาสวยงามมาก เราดีใจมากที่ตาเราดีขึ้น ดูหน้าสวยหวานมาก แต่ยังคงความเป็นเราคนเดิมแค่สวยขึ้น ตาดูเท่ากันมากกว่าที่เราคิดไว้ ตอนแรกเราอาจจะกังวลไปเอง ตอนนี้ประทับใจมากค่ะ
คุณแม่ชมตลอดเลยว่าคุณหมอเก่งมาก
กลับไปบ้านก็ไม่ค่อยบวมเท่าไหร่ค่ะ เราพยายามดูแลตัวเองอย่างดีตามที่คุณหมอบอกทุกอย่างเลย ประคบอย่างสม่ำเสมอ กินยา ทายา นอนหมอนสูง งดของแสลง ทำความสะอาดแผลเบาๆ ช่วยให้แผลเราหายเร็วขึ้น แผลแห้งดีไม่มีปัญหา คุณแม่ชมตลอดเลยว่าคุณหมอเก่งมาก คุณหมอทำตาสวยมาก ใครมาเจอเราก็ชมทุกคนเลย
ตอนพักฟื้นก็เก็บตัวอยู่ในบ้านค่ะ ไม่ออกไปไหนเลยในช่วงอาทิตย์แรก แต่ถ้าใครมีธุระจำเป็นต้องออกนอกบ้านก็ให้หลีกเลี่ยงแสงแดดก่อนนะคะ สวมแว่นกันแดดไว้ด้วยค่ะ
จากภาพลักษณ์ที่เคยมีดวงตาไม่เท่ากันมาตลอด 20 กว่าปี ตอนนี้คุณหมอยุ้ยรักษาให้จนสวยเลย ปลื้มมากค่ะ
สำหรับผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิดเหมือนกับเรา สามารถดูรีวิวแก้ตาตกของเราแล้วนำไปเป็นข้อมูลในการตัดสินใจก่อนการรักษาที่เป็นประโยชน์ได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามอ่านรีวิวค่ะ