กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในผู้ชาย
ผมมีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงและได้มาทำการรักษาที่จาเรมคลินิกเรียบร้อยแล้วครับ วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การรักษา “กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง” ให้กับผู้อ่านหลายๆท่านที่กำลังศึกษาข้อมูลเรื่องนี้ได้ใช้เป็นแนวทางในการสังเกตตัวเองและการรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอย่างถูกวิธีกันนะครับ
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่เกิดขึ้นตามวัย
ผมเป็นอีกหนึ่งคนที่มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมานานแต่ไม่รู้ตัว จนตอนนี้อายุของผมก็45 แล้วครับ ยิ่งเราปล่อยทิ้งไว้ยิ่งนานยิ่งส่งผลกับตัวเองหลายอย่างครับ อย่างแรกเลย คือ หน้าเราดูแก่กว่าวัย ต่อมาก็คือเสียบุคลิกภาพ เนื่องจากมีอาการตาปรือ ทำให้หน้าเราเหมือนคนง่วงนอนอยู่ตลอดทั้งวัน ดูอ่อนเพลีย ดูเหนื่อยหน่ายกับชีวิต มันไม่สดใสเลยครับ และนอกจากนี้ก็คือส่งผลกับการมองเห็น ภาพต่างๆที่ผมมองเริ่มเบลอไปเรื่อยๆครับ เนื่องจากหนังตาตกลงมาเยอะ ตาดำถูกหนังตาตกลงมาปิดเยอะประมาณครึ่งหนึ่งเลยครับ และจะเป็นเยอะข้างเดียวครับ
ก่อนรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
จำได้ว่าอาการแบบนี้เราเริ่มเป็นตั้งแต่วัยรุ่นแล้วครับ แต่ตอนนั้นยังเป็นไม่มาก ก็เลยไม่ได้คิดอะไร จนเราอายุ 40+ หนังตาตกก็เริ่มตกมากขึ้นตามวัยครับ เลยเห็นอาการตาไม่เท่ากันชัดเจนมากขึ้น ผมเลยเกิดความคิดว่าอยากจะทำตาสองชั้นเพื่อเก็บหนังตา และเริ่มหาข้อมูลการรักษาจากในอินเตอร์เน็ตครับ ให้แฟนช่วยหาข้อมูลคลินิกที่จะรักษาให้ด้วย แล้วก็มาลงตัวที่จาเรมคลินิกครับ เห็นคุณหมอยุ้ยได้รับเชิญไปออกรายการบ้านพระรามสี่ ทางช่อง 3 คุณหมอให้ความรู้เรื่องกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ดีมากครับ บางคนที่ไม่รู้จักโรคนี้จะได้รู้จักและสังเกตอาการของตัวเองกันมากขึ้น ผมเข้าไปดูรีวิวของคุณหมอยุ้ย เห็นรีวิวกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเยอะมากครับ คุณหมอยุ้ยก็เป็นจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านดวงตาด้วย แล้วแต่ละเคสก็คล้ายๆกับตาของเรา เลยตัดสินใจเข้ามาปรึกษาคุณหมอดูก่อน ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลยครับกับคำปรึกษาและคำแนะนำเพราะคุณหมอละเอียดมากๆ อธิบายให้เราเข้าใจถึงโครงสร้างใบหน้า โครงสร้างกระโหลกศีรษะ กระดูกเบ้าตา อะไรแบบนั้นเลย รวมถึงวิธีการผ่าตัด คุณหมอจะบอกว่าจะผ่าตัดแบบไหน อย่างไร
ความต้องการของผมแค่อยากให้ตาเท่ากัน
ผมบอกคุณหมอว่าอยากได้ชั้นตาที่ไม่หนาเหมือนคนอื่น เพราะผมมองว่าผู้ชายไม่จำเป็นต้องมีชั้นตาหนาอะไรมากก็ได้ ขอแค่เก็บหนังตาตกและทำให้ตาสองข้างเท่ากันก็พอแล้วครับ หลังจากปรึกษาเสร็จแล้วก็ตัดสินใจรักษาที่นี่ครับ โดยต้องจองคิวไว้ก่อน แล้วก็ไปทำเรื่องลางานกับทางที่ทำงานครับ ลาเผื่อพักฟื้นไว้ด้วย 2-3 วัน
การผ่าตัดเต็มไปด้วยความละเอียดและใส่ใจ
ขอข้ามมาในวันผ่าตัดเลยนะครับ ตั้งแต่เข้าห้องผ่าตัดไปก็ไม่ได้ดูเวลาเลยครับ ตอนออกจากห้องผ่าตัดมาถึงรู้ว่าเราใช้เวลาไป 7 ชั่วโมงเลย เข้าห้องผ่าตัด 10.30 น. ฉีดยาชาและรอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 30 นาที เริ่มผ่าตัดประมาณ 11.00 น. ออกมาจากห้องผ่าตัด 17.30 น. เลยครับ คุณหมอประณีตและมือเบามาก ที่สัมผัสได้คือ คุณหมอยุ้ยจะผ่าตัดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงให้คนไข้แบบไม่รีบเลยครับ เพราะคุณหมอไม่ได้รับคนไข้เยอะ ความละเอียดและความใส่ใจของคุณหมอจึงมีเยอะมาก
หลังผ่าตัดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ด้วยการผ่าตัดที่ยาวนานผมคิดว่าตาจะต้องบวมช้ำมากแน่ๆ ทำใจไว้แล้ว แต่ปรากฏว่าไม่ได้บวมช้ำอย่างที่คิดครับ อาการบวมมีอยู่ครับ แต่ไม่มาก และมีรอยแดงๆ แค่นั้นเอง แล้วอาการจะค่อยๆดีขึ้นในแต่ละวัน จนผ่านไป 1 อาทิตย์ความบวมก็หายไปครับ คุณหมอนัดมาตรวจและตัดไหมตอนครบ 10 วัน ตอนนั้นชั้นตาดูดีมาก เป็นตาสองชั้นคมชัดสวยงามพอดี ไม่มีหนังตาตก ไม่ดูอ่อนแรง ไม่ดูง่วงนอนอีกต่อไปแล้ว แผลจะอยู่ตรงรอยพับของชั้นตาพอดี ถ้าไม่หลับตาก็จะไม่เห็นรอยแผลเลยครับ
หลังทำตาบุคลิกภาพดีขึ้น ช่วยลดอายุ
หลังผ่าตัดผมลางานไว้สำหรับพักฟื้น 3 วัน นั่นก็เพียงพอมากๆสำหรับการผ่าตัดเล็ก เพราะตาผมไม่ค่อยบวมช้ำเท่าไหร่ หลังจากวันที่ 3 ผมก็ไปทำงานได้ตามปกติเลยนะครับ เพื่อนๆน้องๆที่ทำงานหลายคนก็ทักว่าไปทำอะไรมา เขาดูไม่ออก แต่เขารู้สึกว่าผมดูหล่อขึ้น ดูหน้าเด็กลง ดูสดใส ไม่ดูเหนื่อยๆเพลียๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทุกคนจะดูไม่ออกเลยว่าพี่ไปทำตามาครับ เพราะชั้นตาของพี่ไม่ได้หนามาก โดยรวมแล้วช่วยลดอายุไปได้มากจริงๆ บุคลิกภาพของเราก็ดีขึ้น การมองเห็นก็กว้างขึ้นครับ ทำให้มองภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและสบายตา ไม่ต้องใช้การเพ่งมอง ไม่ต้องเลิกคิ้ว ไม่ปวดตาด้วยครับ
Before & After
สุดท้ายอยากฝากถึงทุกคนที่มีอาการของโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ควรทำการรักษาด้วยการผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตาโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะครับ ไม่ควรไปแก้ไขอาการนี้ด้วยการทำตาสองชั้นทั่วไป เพราะมันจะไม่ช่วยให้อาการที่เป็นอยู่ดีขึ้น มิหนำซ้ำจะทำให้อาการตาปรือแย่ลง สุดท้ายก็ต้องมาแก้ตากันอีกรอบ ใครที่มีอาการคล้ายๆพี่ลองเข้ามาปรึกษากับคุณหมอยุ้ยก่อนนะครับ ที่จาเรมคลินิก จะได้รักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอย่างถูกวิธีครับ