
ใช่หรือเปล่า ใช่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือเปล่า?
สวัสดีค่ะ พี่ชื่อนินะคะ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและเทรนเนอร์เรื่องเกี่ยวกับการลงทุนให้กับหลายๆองค์กรค่ะ และมีผลงานการเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน ซึ่งจากประสบการณ์การทำงานก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องศัลยกรรมความงามแต่อย่างใดเลย แต่งานของพี่ต้องพบกับผู้คนมากมาย บางครั้งได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรพูดเนื้อหาเรื่องการลงทุน ก็มักจะมีคนทักว่าทำไมตาของพี่ดูปรือ ดูง่วงนอน เหมือนคนลืมตาได้ไม่สุด ในวันนี้พี่เลยจะมาเล่าประสบการณ์เรื่องกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิดให้เพื่อนๆได้ฟังกันค่ะ
“สมุดพกเศรษฐี” เพจของพี่เองค่ะ

ดูรีวิวในรูปแบบของ VDO ก่อนได้ค่ะ
Review Click!
ไม่เคยรู้จักโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมาก่อน รู้แค่ว่าตาปรือ
ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เลยด้วยซ้ำว่ามีโรคนี้ เพราะไม่เคยรู้จักโรคนี้มาก่อนเลย จนพี่เริ่มมีอาการหนังตาตก ตาปรือ ลืมตาไม่ขึ้น เหมือนคนที่ลืมตาได้ไม่สุด คิดว่าเป็นอาการตามวัย จนเมื่อปีที่แล้วเริ่มปวดกระบอกตา เหมือนเปลือกตาตกลงมาเยอะ การมองเห็นจะไม่ค่อยถนัดค่ะ นอกจากนี้ก็ยังส่งผลกระทบกับบุคลิกภาพโดยตรง เวลาแต่งหน้าพี่ต้องกรีดอายไลเนอร์เข้มๆ หนาๆ เพื่อให้ดูไม่ออกว่าเราตาปรือ
ก่อนผ่าตัดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด

จากภาพก่อนทำจะเห็นได้เลยนะคะว่าตาปรือมาก เหมือนจะลืมตาไม่ขึ้นแล้ว แต่นี่คือการลืมตาปกติของพี่เลยนะ ลืมตาได้แค่นี้จริงๆ บางครั้งทำให้หน้าพี่ดูง่วงๆ ดูเหนื่อย ดูเพลีย เหมือนคนอดนอน แต่เราก็นอนอย่างเพียงพอแล้วนะ จนมีพี่ที่รู้จักเขามาทำตาที่จาเรมคลินิกค่ะ เขาก็เล่าให้ฟังว่าเขามีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และเขาบอกว่าพี่ก็น่าจะเป็นเหมือนกัน ให้พี่ลองเข้ามาตรวจกับคุณหมอยุ้ยดูก่อน
ตัดสินใจเลือกทำตากับหมอยุ้ย
พี่ก็เลยกลับมาหาข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง ดูรีวิวของจาเรมคลินิก รู้สึกว่าคุณหมอทำตาออกมาสวย ดูธรรมชาติ หลังผ่าตัดไม่ช้ำ แสดงว่าคุณหมอต้องมือเบามากๆ และคุณหมอยุ้ยก็เป็นจักษุแพทย์ด้วย ทุกอย่างดูโอเคก็ทำให้พี่เริ่มมั่นใจ พอเข้ามาตรวจดูก็พบว่าพี่เป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด คุณหมอบอกว่าเคสของพี่จะเป็นมากกว่าในเคสที่เป็นในภายหลัง การรักษาจะยากกว่า การผ่าตัดจะใช้เวลานานกว่า ค่ารักษาก็แพงกว่า แต่พี่ก็ตัดสินใจเลือกทำตากับหมอยุ้ย เพราะคุณหมอเป็นจักษุแพทย์ ทำตาสไตล์ธรรมชาติ ชั้นตาไม่สูง และหลังจากที่ได้พูดคุยกันแล้วก็ชอบตรงที่คุณหมอเป็นคนใจเย็น
เดี๋ยวพี่จะพาไปดูหลังทำตานะคะ
พี่เรียงรูปหลังทำไว้ให้ดูตามวันที่ก่อน – หลังเลยนะคะ เริ่มจากวันที่ 1 หลังทำ ไปจนถึง 3 สัปดาห์ ดูจากรูปก็จะเห็นเลยว่าหลังการผ่าตัดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิดแทบไม่มีรอยช้ำเลยค่ะ ถึงแม้การผ่าตัดจะนานถึง 4 ชั่วโมง แต่คุณหมอทั้งละเอียดและมือเบามากค่ะ ไม่เจ็บเลย คุณหมอค่อยๆทำอย่างบรรจง ไม่รีบไม่ร้อน เช็คอย่างละเอียดว่าชั้นตาของเราใกล้เคียงกันมากที่สุดแล้วถึงให้เราออกจากห้องผ่าตัดค่ะ พี่ประทับใจมากๆเลย





















จนถึงวันตัดไหมแผลก็ดีมากค่ะ รอยแผลผ่าตัดจะอยู่ตรงรอยพับของชั้นตาพอดี หลังตัดไหมก็ดูปกติเลย ชั้นตาสวย สดใส ความบวมช้ำถ้าเทียบเป็นคะแนน ให้ 2 เต็ม 10 ค่ะ เพราะว่าแทบจะไม่บวมไม่ช้ำเลยก็ว่าได้ พักฟื้นไม่กี่วันก็สามารถไปทำงานได้ตามปกติแล้ว ไม่มีอาการเจ็บหรือปวดเลยค่ะ ตอนแรกทำใจไว้ว่าน่าจะเจ็บและบวมช้ำนานเป็นเดือนๆ แต่พอมาทำจริงบอกเลยว่าคุณหมอเก่งมาก และมือเบามากจริงๆ
หลังการผ่าตัดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด
พี่ดูตาโตขึ้น ชั้นตาเป็นชั้นตาเลย คมชัด แต่ชั้นตาก็ไม่ได้สูงเกินไป ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส การมองเห็นก็กว้างขึ้น มองภาพง่ายขึ้นและไม่มีอาการปวดกระบอกตาเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ บุคลิกภาพก็ดีขึ้น แม้ไม่แต่งหน้าเราก็ยังดูสดใส มีเพื่อนๆหลายคนทักว่าหน้าเด็กลง อันนี้ชอบมากค่ะ ยิ่งมีคนชมก็ยิ่งสร้างความมั่นใจให้พี่มากขึ้นไปอีก ต่อไปพี่ก็ไม่ต้องแต่งหน้าหนาๆอีกแล้ว ไม่ต้องกรีดอายไลเนอร์หนาเกินความจำเป็นเพื่อกลบเกลื่อนความตาปรือ เวลาไปออกงานก็ไม่กังวลแล้วว่าบุคลิกภาพเราดีหรือยัง เพราะตอนนี้ดูสดใสขึ้นมากค่ะ การมองเห็นก็ดีขึ้น สามารถมองภาพได้ชัดเจนขึ้นและกว้างขึ้นด้วย เหมือนดวงตาเปิดกว้างขึ้น มองเห็นอะไรๆได้ไกลขึ้น รู้สึกดีมากค่ะ

ดวงตาสดใส เหมือนเปิดโลกกว้างในการมองภาพ
อยากฝากถึงหลายๆคนที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด หากปล่อยทิ้งไว้นานก็จะเสียบุคลิกภาพ ควรรีบมาตรวจนะคะ ซึ่งคุณหมอจะพิจารณาเป็นรายๆไป ราคาค่าผ่าตัดของแต่ละบุคคลจึงไม่เท่ากันค่ะ ถ้าเรามารักษาแต่เนิ่นๆ ในขณะที่ยังเป็นไม่มาก ก็จะทำการรักษาได้ง่ายกว่า ค่ารักษาจะไม่เท่ากับเคสที่เป็นมาก อยากให้รีบมารักษากันนะคะ หากสนใจรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด สามารถสอบถามและส่งรูปเข้ามาเพื่อให้คุณหมอประเมินอาการเบื้องต้นก่อนได้ทางเพจจาเรมคลินิกนะคะ