กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ปัญหาดวงตาทำให้หน้าดูเหนื่อย
สวัสดีค่ะ ดารินเองนะคะ ปกติดารินทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย อยู่ที่สหรัฐอเมริกาค่ะ และจะบินกลับไทยแค่ปีละ 1 ครั้ง ครั้งหนึ่งจะอยู่ที่ไทยนานประมาณ 2 เดือน ครั้งนี้ได้มีโอกาสมารักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงกับคุณหมอยุ้ยที่จาเรมคลินิกค่ะ เลยถือโอกาสมาเล่าสู่กันฟังว่าประสบการณ์ครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ
รับชมรีวิวใน Youtube ของจาเรมคลินิกก่อนได้ค่ะ
เป็นคนตาไม่เท่ากันอยู่แล้ว
รูปตาเดิมของดารินจะเป็นรูปตาที่ไม่เท่ากันอยู่แล้ว และก่อนที่จะมารักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่จาเรมคลินิกดารินจะมีอาการตาปรือ เหมือนคนง่วงนอน ดูเหนื่อยๆ เวลาไปเรียนก็จะมีเพื่อนๆและอาจารย์หลายคนมาถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า? ไม่สบายหรือเปล่า? ไหวไหม? เหนื่อยเหรอ? นอนน้อยหรือเปล่า? แบบนี้บ่อยมากค่ะ ทั้งที่เราก็นอนเต็มอิ่มแล้ว แล้วก็ไม่ได้เหนื่อยเลยนะ
ทำตาทั้งที ต้องจักษุแพทย์เฉพาะทาง
จนเราสังเกตตัวเองดูแล้วว่าปัญหาน่าจะเกิดจากตาของเราที่ดูอ่อนแรงลง ก็เลยลองเสิร์จอินเตอร์เน็ตหาคลินิกทำตา เพื่อที่จะทำตาสองชั้นค่ะ ก็มาเจอรีวิวกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงของหมอยุ้ย จาเรมคลินิก รู้สึกเลยว่าปัญหาของเคสรีวิวที่นี่ตรงกับปัญหาของเราเลย เราจะทำตาสองชั้นปกติทั่วไปไม่ได้ ต้องรักษาที่กล้ามเนื้อตา จากนั้นดารินก็ไม่ดูรีวิวของคลินิกอื่นเลยค่ะ มุ่งตรงมาที่จาเรมคลินิกเลย มั่นใจในตัวคุณหมอด้วยค่ะ เพราะคุณหมอเป็นจักษุแพทย์เฉพาะทาง
ชอบรีวิวตาของจาเรมคลินิกเพราะไม่อยากได้ชั้นตาสูงมาก
ที่ชอบรีวิวตาของจาเรมคลินิกก็เพราะว่าเราไม่ได้อยากได้ชั้นตาที่สูงมาก อยากให้คุณหมอแก้ปัญหาตาปรือของเราให้ดูสดชื่นขึ้น ซึ่งสไตล์ของหมอยุ้ยก็จะเป็นชั้นตาที่พอดีๆ ทำออกมาแล้วดูเป็นธรรมชาติ หน้าเราไม่เปลี่ยนไปเป็นหน้าคนอื่น แต่ได้ความสวยในแบบของตัวเอง ตาดำกลมโต ดูบุคลิกดี ประมาณนี้ค่ะ กลับมาถึงไทยดารินก็เข้ามาพบคุณหมอยุ้ยเลย เพราะว่าเรามีคุยกับแอดมินไว้ทางไลน์ในเบื้องต้นแล้ว จองคิวผ่าตัดไว้เรียบร้อยค่ะ
มาดูหลังการผ่าตัดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงกันเลยนะคะ
คุณหมอใช้เวลาในการผ่าตัดนานเหมือนกันค่ะ เพราะคุณหมอมีความละเอียดมาก เป็นการทำงานที่ประณีตและมีความระมัดระวังสูงมาก คุณหมอมือเบา และค่อยๆทำ ไม่เจ็บเลยค่ะ แรกๆก็แอบเกร็ง เพราะว่าเราไม่เคยทำศัลยกรรมหรือผ่าตัดอะไรมาก่อนเลย แต่พอเราอยู่ในระหว่างการผ่าตัดคุณหมอจะชวนคุยเรื่อยๆ และคอยบอกเราตลอดว่าตอนนี้ทำอะไร ถึงขั้นตอนไหนแล้ว แล้วเดี๋ยวหมอจะทำอะไรต่อ ก็เลยช่วยลดความเกร็งลงไปได้เยอะเลยค่ะ
เป็นคนรูปทรงตาไม่เท่ากัน
ตาสองข้างของดารินก็ไม่ค่อยเท่ากัน อันนี้เป็นมาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ เป็นที่รูปทรงตาเลย ไม่ใช่แค่ชั้นตา คุณหมอเลยใช้วิธีช่วยให้ตาดูใกล้เคียงกันด้วยการพยายามปรับชั้นตาให้ จนผ่านมาหลายชั่วโมง ชั้นตาเริ่มดูใกล้เคียงกันมากขึ้น จากนั้นคุณหมอก็จะให้เราได้ดูดวงตาคู่ใหม่ของเราในกระจก ตอนนั้นก็คือว้าวมาก..ตาสวยสดใสมาก ชั้นตาโค้งสวยได้รูป ดูเข้ากับหน้าเราแบบสุดๆ บอกคุณหมอเลยว่าชอบแบบนี้มากเลยค่ะ
หลังทำตาบวมน้อยมาก
แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ หลังทำบวมน้อยมากค่ะ แผลเล็ก ละเอียด ซ่อนแผลอยู่ที่รอบพับของชั้นตาพอดีเลย เวลาลืมตาก็จะมองไม่เห็นเลยนะคะ ช่วงที่บวมมากสุดน่าจะอยู่ประมาณ 3-4 วันแรกค่ะ พอวันที่ 5 ไปแล้วก็เริ่มดูปกติเลย ยุบลงเร็วมาก ไม่เขียว ไม่ช้ำเลย ที่บ้านยังทักเลยค่ะว่าทำไมหายเร็วจัง เราเองก็เตรียมใจมาสำหรับความบวม คิดว่าจะบวมนานเป็นเดือนๆ รู้สึกประทับใจในความมือเบาของคุณหมอมากค่ะ
ทำตาแผลสวย ต้องดูแลตัวเองให้เป๊ะ!
คุณหมอนัดเข้ามาอีกทีก็ตอนครบ 10 วันค่ะเพื่อมาตัดไหม แต่ดารินมาวันที่ 12 เลยเพราะติดธุระ เลทไป 2 วัน ก็ไม่เป็นไรค่ะ แผลของเราแห้งสนิทดี ที่แผลสวยอาจเป็นเพราะเราดูแลตัวเองแบบเป๊ะๆตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดเลย เริ่มตั้งแต่การประคบ ซึ่งช่วยลดบวมลงไปได้เยอะเลยค่ะ และเรื่องอาหารแสลงที่ควรระวัง ไม่รับประทานเลย งดทุกอย่างที่แสลงหมดเลย ห้ามแผลโดนน้ำ ล้างแผลทุกวัน หมั่นทายาตามที่หมอสั่ง วันนี้คุณหมอนัดเข้ามาที่คลินิกเพื่อตัดไหมแล้วก็ตรวจกับคุณหมออีกครั้ง ก่อนที่จะบินกลับอเมริกาค่ะ หลังจากนี้แผลโดนน้ำได้แล้ว คุณหมอแนะนำให้ทายาและดูแลตัวเองเหมือนเดิมต่อไปอีกจนครบ 1 เดือนถึงจะแต่งหน้าได้ค่ะ
รีวิวกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ทำตาครบ 1 เดือนแล้วค่ะ
หน้าดูสดใสมาก ไม่มีอาการตาปรือเหมือนคนง่วงนอนอีกแล้ว หลังจากนี้ดารินก็ต้องบินกลับไปอเมริกาเพื่อไปทำงานและเรียนต่อที่นั่นเหมือนเดิมแล้วค่ะ หวังว่าดวงตาคู่ใหม่จะเซอร์ไพร์สเพื่อนๆทุกคนที่นั่นจนต้องร้องว้าวแน่ๆ ยังไงก็ฝากติดตามรีวิวกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงของดารินทางช่อง Youtube ของ Jaremclinic ด้วยนะคะทุกคน วันนี้ต้องขอตัวไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ