โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงและการรักษา
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงและการรักษาให้เพื่อนๆฟังกันนะคะ ด้วยความประทับใจในความมือเบาของคุณหมอก็เลยอยากมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้หลายคนได้มีความเข้าใจในโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงและการรักษาค่ะ จริงๆโรคนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ถ้าเรารักษาไม่ถูกทาง หรือไปทำตาสองชั้นปกติทั่วไปก็จะถือว่าเป็นการรักษาที่ไม่ตรงจุดนะคะ อาจทำให้อาการของโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเป็นมากขึ้นไปอีก
ตาหลบใน ตาไม่เท่ากัน รักษาก่อนจะเป็นมากขึ้น
เราเริ่มสังเกตตัวเองมาประมาณ 1 ปีย้อนหลังนี้เองค่ะ ที่เราเริ่มมีอาการหนังตาตก ตาสองข้างไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งเป็นตาสองชั้นหลบใน อีกข้างหนึ่งหนังตาตกลงมาจนกลายเป็นตาชั้นเดียวไปเลย ก่อนหน้านี้เราเองเคยเป็นคนตาสองชั้นนะคะ แต่ชั้นตาเราไม่ได้สูงมาก ก็อยากทำตาสองชั้นแบบธรรมชาติ ที่ชั้นตาไม่สูงมาก เลยเริ่มมองหาคลินิกทำตาค่ะ
หนังตาตกทำให้มองภาพได้แคบลง
ชั้นตาก่อนที่จะมารักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงกับคุณหมอยุ้ยที่จาเรมคลินิกก็จะเป็นแบบในรูปเลยค่ะ รวมภาพมาให้ดูกันชัดๆเลยว่าตาไม่เท่ากันแบบนี้ นอกจากจะเกิดความไม่สวยงาม แต่งหน้ายาก การมองภาพก็ลำบากอีกด้วยค่ะ เพราะหนังตาที่ตกลงมาทำให้มองภาพได้แคบลง เคยลองเอามือง้างหนังตาขึ้นไปด้านบนแล้วมองภาพไปไกลๆ ก็รู้สึกว่าเรามองภาพได้กว้างดีจัง นี่หนังตาเราคงตกลงมามากเลยสินะ และตอนแรกเรามองว่าการทำตาเป็นเรื่องของความสวยงามเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มองว่ามันจะเป็นเรื่องของการรักษาเลยค่ะ
เจอบทความเรื่อง “กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง”
จนหาข้อมูลแล้วไปเจอบทความเรื่อง “กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง” ของหมอยุ้ยที่จาเรมคลินิก ก็เลยรู้ว่าอาการของเราเหมือนกับอาการของโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเลย และการรักษาจะต้องผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา จะลึกและละเอียดกว่าการทำตาสองชั้นปกติค่ะ พอเข้าไปดูในเว็บไซต์ก็เห็นว่าคุณหมอยุ้ยไปรับเชิญไปให้ความรู้ในรายการบ้านพระรามสี่ ทางช่อง 3 ด้วยค่ะ คุณหมอพูดได้ละเอียดและเข้าใจง่าย และคุณหมอก็เป็นหมอเฉพาะทางด้านดวงตาด้วย เลยสนใจเข้ามาปรึกษาที่จาเรมคลินิก ไม่ได้ดูที่อื่นไว้เลยค่ะ
ให้คุณหมอช่วยออกแบบชั้นตา
หลังจากที่เราเข้ามาปรึกษากับคุณหมอยุ้ยแล้วก็จองคิวผ่าตัดเลย ก่อนผ่าตัดจะมีการวัดชั้นตาก่อน คุณหมอจะถามว่าเราชอบชั้นตาแบบไหน ก็เลือกชั้นตาที่ไม่สูงมากและดูเหมาะกับใบหน้าของเรามากที่สุดค่ะ ให้คุณหมอช่วยออกแบบให้ค่ะ เนื่องจากเราเป็นคนตาเล็ก ถ้าทำชั้นตาสูงมากน่าจะไม่เข้ากับใบหน้าค่ะ
หมอยุ้ยละเอียดมาก เป๊ะมาก และมือเบา
วันผ่าตัดใช้เวลาไปประมาณ 5 ชั่วโมง คุณหมอละเอียดละออมากและมีความเป๊ะมากค่ะ จะมีการเช็คชั้นตาว่าเท่ากันหรือยังก่อนที่คุณหมอจะให้เรากลับบ้านต้องเพอร์เฟคต์ที่สุด หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้วก็ไม่มีอาการบวมช้ำเลยนะ เรายังแปลกใจเลย คุณหมอใช้เวลาผ่าตัดนานแต่ไม่ช้ำเลย คิดว่าพรุ่งนี้เช้าน่าจะบวมแน่ๆ เพราะเขาว่ากันว่าหลังทำ 3 วันแรกจะเป็นช่วงที่บวมที่สุด ก็เตรียมพร้อมรับมือไว้อยู่นะคะ แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ไม่ได้มีอาการบวมอย่างที่คิดเลย
หลังทำไม่ได้มีอาการบวมอย่างที่คิด
วันที่ 1-3 ตรงเปลือกตาจะมีรอยแดงนิดๆ พอหลังจากนั้นรอยแดงก็เริ่มจางลงเรื่อยๆ แทบดูไม่ออกเลยค่ะว่านี่เราไปผ่าตัดตามานะ คุณหมอมือเบาจริงๆ
วันที่ 11 คุณหมอนัดมาตัดไหมและตรวจตาครั้งแรกหลังทำค่ะ แผลเล็กและแห้งดีมาก ไม่มีรอยช้ำเลย
แผลสวย แผลเล็ก หายเร็ว
การดูแลตัวเองหลังทำตาก็ไม่มีอะไรมาก ไม่ได้มีขั้นตอนมากมายหรือมีผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันเลยค่ะ หลังทำตาแรกๆให้ประคบเย็น – อุ่น ตามที่คุณหมอสั่งนะคะ และให้งดอาหารแสลง ห้ามแผลโดนน้ำ จนกว่าจะหายดีค่ะ และให้ทายาลดรอยแผลเป็นตามที่คุณหมอแนะนำ นอกจากนี้ก็จะมีเทคนิคเล็กๆน้อยๆอีกมากมายที่คุณหมอจะแนะนำให้เราปฏิบัติตามเพื่อการฟื้นตัวที่รวดเร็วมากขึ้น เราเองก็ไม่ได้ลางานเลยนะคะ เรียกได้ว่าไม่มีผลกระทบกับงานประจำเลย แต่หลังการผ่าตัดก็พยายามพักสายตาให้มากที่สุดค่ะ
ลาขาดจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
หลังทำตาโตขึ้นมากค่ะ ผลลัพธ์ที่ได้เราจะเห็นว่าตาดำเราใหญ่ขึ้น หนังตาไม่ตกลงมาปิดตาดำแล้ว การมองภาพก็กว้างไกลขึ้น ชัดเจนขึ้น ชั้นตาสองข้างเท่ากัน ไม่เป็นตาหลบในข้างเดียวแล้วค่ะ และที่สำคัญ ชั้นตาไม่สูงมาก เป็นแบบที่เราอยากได้เลย เพื่อนก็ชมว่าสวยค่ะ ดูเป็นธรรมชาติมาก
ควรตรวจกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงก่อนทำตา
อยากฝากถึงเพื่อนๆที่อยากทำตาสองชั้น ควรมาตรวจดูก่อนนะคะว่าเรามีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือไม่ เพราะเราจะได้รักษาและแก้ไขอย่างถูกวิธี ถ้าเราเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแล้วไม่รู้ตัว แต่ไปทำตาสองชั้น ก็จะทำให้อาการของโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเป็นมากขึ้นไปอีก จะต้องแก้ตาอีกรอบในอนาคตค่ะ ทั้งเจ็บตัวซ้ำซ้อนและมีค่าใช้จ่าย 2 ครั้งด้วย และอาจไม่สวยเหมือนเคสปกติทั่วไป ซึ่งถ้าเราสงสัยว่าเราเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือไม่สามารถเข้ามาตรวจดูอาการกับคุณหมอยุ้ยก่อนได้นะคะ ที่จาเรมคลินิกค่ะ