เปลือกตาตก เปลือกตาไม่มีแรง
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวการรักษาอาการตาตกข้างเดียว หรือกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิดค่ะ เพื่อให้เพื่อนๆที่มีอาการคล้ายๆกันได้ใช้เป็นแนวทางก่อนการรักษานะคะ มาเริ่มต้นกันที่อาการแรกเริ่มกันเลยค่ะ
อาการเริ่มแรกของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด
ก่อนที่เราจะรู้ว่าตัวเองเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิดก็คือ เรามีอาการตาตกข้างเดียว เปลือกตาตกลงมาเยอะมาก เห็นชัดมากเลยค่ะว่าตาสองข้างไม่เท่ากัน เป็นมาตั้งแต่เด็กๆเลย จำความได้ก็เห็นว่าตาเราเป็นแบบนี้แล้ว แต่ตอนเด็กๆจะยังเป็นไม่มากนะคะ เราก็ไม่ได้สนใจอะไร ไม่รู้มาก่อนด้วยว่าเป็นอาการของโรคโรคหนึ่ง
ก่อนรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด
จนตอนนี้เราก็อายุ 26 ปีแล้วค่ะ รู้สึกว่าตาของเรามันเริ่มตกลงมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นมากแค่ข้างเดียว แต่ก็ทำให้การมองเห็นแย่ลง นานวันเข้าทำให้เปลือกตาไม่มีแรงในการเปิดปิดตาเลย จนเราติดการเลิกคิ้วเพื่อช่วยในการมอง ช่วงหน้าผากและคิ้วจึงมีการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นขึ้นเยอะมาก แต่ตาก็ยังตกเหมือนเดิม เลยเริ่มมองหาคลินิกทำตาสองชั้น เพราะตอนนั้นคิดว่าการทำตาสองชั้นจะช่วยแก้ไขปัญหาตาตกของเราได้ อยากจะให้ตาสวย ชั้นตาเท่ากันทั้งสองข้าง เราก็เสิร์จเน็ตดูไปเรื่อยๆเลย เจออาการที่ตรงกับเราก็เลยเข้าไปอ่าน พบว่าเราน่าจะเป็นโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด แก้ไขด้วยการทำตาสองชั้นปกติไม่ได้
จากที่เราอ่านเจอข้อมูลว่าเรามีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด ก็พบว่ามันเป็นโรคที่ต้องผ่าตัดแก้ไขลงไปในชั้นกล้ามเนื้อตาด้วย ไม่ใช่ทำตาเพื่อความสวยความงามของชั้นตาอย่างเดียวแล้ว ตอนนั้นเล็งคลินิกไว้ 4 ที่ แต่ได้มีโอกาสเข้าไปปรึกษาคุณหมอจริงจังแค่ 2 ที่ค่ะ คือ ที่จาเรมคลินิก กับคลินิกอีกแห่งหนึ่งค่ะ
เลือกจาเรมคลินิกเพราะหมอยุ้ยเป็นจักษุแพทย์
หลังจากเข้าไปปรึกษาทั้ง 2 ที่ก็ถึงเวลาต้องเลือก สุดท้ายเลือกจาเรมคลินิกเพราะเห็นว่าคุณหมอยุ้ยเป็นจักษุแพทย์เฉพาะทาง รีวิวเยอะ รีวิวสวย คุณหมอยุ้ยเชี่ยวชาญเรื่องกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วย และในเรื่องของราคาก็เป็นราคาที่เราพอรับไหวค่ะ คุณหมอยุ้ยก็ให้ข้อมูลเราละเอียดมากๆ ตอนนั้นเราอยากทำแค่ข้างเดียวเพราะเราเป็นข้างเดียว อีกข้างเราก็โอเคกับมันแล้ว คุณหมอยุ้ยบอกว่าทำข้างเดียวได้ เราก็นัดวันผ่าเลยค่ะ
ผ่าตัดกล้ามเนื้อตา 1 ข้าง
วันผ่าตัดตื่นเต้นมาก ไม่เคยผ่าตัดอะไรมาก่อนเลยในชีวิตนี้ คุณหมอยุ้ยมีความใจเย็นมาก ค่อยๆทำแบบละเอียดละออจริงๆ น่าจะใช้เวลาไปประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆเลยค่ะ นี่ขนาดผ่าข้างเดียวนะคะ ระหว่างการผ่าตัดคุณหมอจะให้เราดูตลอดว่าแบบนี้โอเคหรือยัง เราชอบไหม ซึ่งตอนที่ผ่าตัดเสร็จแล้วเราก็รู้สึกว่าโอเคแล้วนะ ตาเราดีขึ้นกว่าเดิมมาก ก็ลงมาข้างล่างสักพักและเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับบ้าน แต่คุณหมอบอกว่าขอแก้ไขใหม่อีกนิดดีกว่า หมออยากให้เพอร์เฟคต์กว่านี้ เพื่อความสบายใจของคุณหมอก็เลยแก้ไขอีกนิดในวันนั้นเลยค่ะ รอบสองนี่มั่นใจในฝีมือคุณหมอมาก ว่าเราต้องสวยขึ้นอีกแน่ๆ รอบนี้ใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ
ชั้นตาสองข้างดูใกล้เคียงกัน
หลังทำตาเสร็จใหม่ๆก็ยังดูไม่ออกว่าชั้นตาของเราเป็นอย่างไร เพราะว่ายังบวมอยู่ค่ะ วันที่บวมมากที่สุดจะเป็นวันที่ 2 หลังผ่าตัดค่ะ หลังจากนั้นก็ดีขึ้นเรื่อยๆ พี่แอดมินบอกว่าให้ถ่ายรูปแล้วส่งมาให้ดูทุกวันค่ะ พี่เขาจะได้เอาไปให้คุณหมอดู เราก็ถ่ายเก็บไว้ส่งให้พี่เขาทุกวันเลย แรกๆเราแอบกังวลเพราะแผลยังไม่หาย พอผ่านไปอาทิตย์หนึ่งแผลเริ่มแห้ง ชั้นตาก็เริ่มเข้าที่แล้ว โอเคมากๆเลย ดูสวยขึ้นมาก
หลังตัดไหมตาทันที
อาการช้ำ บวม แดง ก็จะมีให้เห็นน้อยมากๆ
เป็นการทำตา 1 ข้างที่ใช้เวลานานกว่าที่คิดไว้ แต่คุณหมอมือเบามากค่ะ เพราะว่าหลังทำไม่มีอาการเขียวช้ำเลย
ไม่ได้คาดหวังว่าชั้นตาจะเท่ากันเป๊ะๆ
ที่จริงก็ไม่ได้คาดหวังว่าชั้นตาเราจะเท่ากันแบบเป๊ะๆ ทั้งสองข้างนะคะ ต่างกันนิดหน่อยก็ไม่เป็นไรเพราะว่าของเดิมมันค่อนข้างจะต่างกันเยอะเลย แต่ด้วยความเอาใจใส่คนไข้ของคุณหมอ และคุณหมอเก็บรายละเอียดดีมากๆ อยากให้ตาของเราออกมาดูดีที่สุด ก็เลยประทับใจที่นี่มากๆค่ะ
Before & After
ขอบคุณคุณหมอยุ้ยมากค่ะที่ทำตาให้เราสวยขนาดนี้ ดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก บุคลิกก็ดีขึ้นด้วย ใครเจอก็ทักว่าไปทำตามาเหรอ ตาเท่ากันแล้วนะ ดูสวยขึ้นมากเลย ก็ดีใจนะคะที่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ในทางที่ดีขึ้น ใครที่คิดว่าตัวเองมีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทั้งที่เป็นมาแต่กำเนิดหรือเป็นภายหลังก็ลองเข้ามาปรึกษากับคุณหมอยุ้ยที่จาเรมคลินิกได้นะคะ