รีวิวข้อควรระวังก่อนทำตาสองชั้น
ขออนุญาตมาเล่าประสบการณ์ทำตาสองชั้นก่อนจะมาแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงกับคุณหมอยุ้ยนะคะ ซึ่งครั้งนี้เป็นการแก้ตาครั้งที่ 4 แล้วค่ะ หลายคนแอบตกใจเลยว่าทำไมเราถึงแก้ตาสองชั้นบ่อยจัง วันนี้เลยจะมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อเพื่อนๆที่อยากทำตาสองชั้นจะได้ใช้เป็นข้อศึกษาว่าเราควรระวังอะไรบ้าง ขอเริ่มเล่าตั้งแต่ก่อนทำตาสองชั้นครั้งแรกเลยนะคะ
ทำตาครั้งที่ 1 เนื่องจากตาเดิมของเราเป็นตาชั้นเดียวค่ะ แบบตาตี่เลย เป็นอาหมวย แล้วเราได้ไปทำตาสองชั้นที่ต่างจังหวัด หลังจากนั้นอยู่มาไม่ถึงปีชั้นตาก็หลุดกลับมาเป็นตาชั้นเดียวเหมือนเดิม ก็เริ่มเสิร์จหาคลินิกทำตาในกรุงเทพฯเพื่อมาแก้ตาสองชั้นอีกครั้งค่ะ
แก้ตาครั้งที่ 2 ครั้งนี้ไปทำตาที่คลินิกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ทำกับทีมแพทย์ของคุณหมอชื่อดัง ก็ได้ชั้นตาที่สวยเลยค่ะ แต่เรายังรู้สึกว่าตายังไม่โตเท่าไหร่ อยากจะเปิดหัวตากับเปิดหางตาเพิ่ม ก็เลยไปทำตาเพิ่มที่คลินิกอีกแห่งหนึ่ง
แก้ตาครั้งที่ 3 ครั้งนี้เป็นการเปิดหัวตากับเปิดหางตาค่ะ ไม่ได้ไปแตะในส่วนของชั้นตาเลย แต่คุณหมอที่นี่ก็แจ้งเราแหละว่าเรามีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วยนะ แต่ตอนนั้นเรายังไม่อยากแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่นี่ เพราะที่นี่ดังเรื่องตาสองชั้น เลยขอทำแค่เปิดหัวตากับเปิดหางตาไปก่อน คิดว่ากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงไว้ไปทำกับหมอที่เชี่ยวชาญโดยตรงดีกว่า ซึ่งครั้งนี้ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ไปทำเลยค่ะ เพราะมันเจ็บมาก และช้ำเยอะมากค่ะ กว่าจะหายดีก็ใช้เวลาเป็นเดือน ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ได้มีความต่างจากเดิมมากเท่าไหร่ เพราะอาจเป็นที่เบ้าตาของเราด้วยที่สามารถทำได้เท่านี้
หลังจากนั้นก็มีคนทักว่าเราเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือเปล่า อาการดูคล้ายๆนะ เพราะเปลือกตาข้างหนึ่งจะตกลงมามากว่าอีกข้าง เป็นคนตาปรือข้างเดียว ตาดำข้างนั้นจะมองเห็นแค่ครึ่งเดียว เสียบุคลิกมาก และเนื่องจากเราเองก็ใส่คอนแทคเลนส์มานานเป็น 10 ปี น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เลยมองหาคลินิกที่ดังเรื่องกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
หาข้อมูลอยู่นานมาก เห็นรีวิวของจาเรมคลินิกมีเคสกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเยอะมากๆ ส่วนใหญ่คนที่มาหาคุณหมอยุ้ยจะมีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแทบจะทั้งนั้น แล้วคุณหมอก็แก้ไขออกมาได้ดีมากๆเลยค่ะ
หลังแก้ตาครั้งที่ 3 ก่อนแก้ตาครั้งที่ 4
ก่อนแก้ตาครั้งที่ 4 พยายามแต่งหน้าเข้มๆ เพื่อกลบเกลื่อนชั้นตาที่ไม่เท่ากัน
แก้ตาครั้งที่ 4 คุณหมอยุ้ยตรวจดูแล้วบอกว่าเราสามารถแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง 1 ข้างได้ เพราะอีกข้างหนึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไรค่ะ เรารู้สึกชอบที่คุณหมอบอกตรงๆเลยว่าเคสเราเป็นเคสแก้นะ จะไม่ได้เป๊ะ 100% เหมือนในเคสที่ทำครั้งแรก แล้วเป็นการผ่าตัด 1 ข้างด้วย แต่หมอจะทำให้ใกล้เคียงกับอีกข้างมากที่สุด เดี๋ยวเราไปดูหลังการแก้ตาครั้งที่ 4 กันค่ะ
หลังแก้ตาครั้งที่ 4 (1 ข้าง) ที่จาเรมคลินิก
ใช้เวลาผ่าตัด 3 ชม. ครั้งนี้ช้ำน้อยที่สุดแล้วค่ะตั้งแต่เคยทำมา คุณหมอยุ้ยมือเบามากๆค่ะ แทบไม่เห็นความช้ำเลย จะมีแค่สีแดงนิดหน่อยตรงเปลือกตา ไม่ผิดหวังเลยกับการหาข้อมูลอย่างละเอียดของเรา
แผลแห้งไวมากค่ะ ชั้นตาสวยและใกล้เคียงกันกับอีกข้าง
อีกเหตุผลที่เลือกมาแก้ตาสองชั้นที่นี่นอกจากคุณหมอเก่ง รีวิวแน่นแล้ว ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ที่จาเรมคลินิกมีเคสกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่เป็นผู้ใหญ่มาทำเยอะมากๆ เราคิดว่าการตัดสินใจของคนในวัยนี้ค่อนข้างจะน่าเชื่อถือ เพราะคนวัยผู้ใหญ่จะดูปัจจัยหลายๆอย่างก่อนการตัดสินใจค่ะ แล้วพอดีว่าเราเลื่อนมาเจอรีวิวเคสแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง 1 ข้าง ที่เขามีอาการคล้ายๆเราเลย ทำออกมาสวย ดูดีขึ้นมาก เลยเลือกที่นี่
ใครอยากทำตากับจักษุแพทย์แนะนำจาเรมคลินิก
นึกถึงก่อนผ่าตัดที่คุณหมอบอกเราว่าหลังทำอาจจะไม่ได้เท่ากัน 100% นะ แต่เรามองว่านี่แหละ เท่ากันมากๆเลย เป๊ะแล้ว พอใจมากๆค่ะ ชอบมาก ปลื้มปริ่มสุดๆ ใครอยากทำตากับจักษุแพทย์แนะนำเลยค่ะ ต้องมาที่จาเรมคลินิกนะคะ คุณหมอยุ้ยเป๊ะมากค่ะ
ระวังภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ฝากอีกนิดนะคะ สำหรับข้อควรระวังในการทำตาสองชั้น คือควรระวังภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือหากเราจะเปิดหัวตา เปิดหางตา เราควรให้จักษุแพทย์พิจารณาจากโครงสร้างดวงตาของเราก่อนค่ะ ว่าทำออกมาแล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร บางครั้งโครงสร้างดวงตาของเราเป็นแบบดวงตาเล็ก เบ้าตาเล็ก โหนกคิ้วสูง ฯลฯ ทำออกมาแล้วก็เลยดูไม่แตกต่างค่ะ ตรงนี้ไม่ควรฝืนเลย เพราะยังทำให้เจ็บตัวอีกด้วยนะคะ ตรงนี้ฝากไว้ให้เพื่อนๆใช้เป็นข้อมูลศึกษาก่อนการทำตาสองชั้นนะคะ