ปัญหาหน้าท้องเยอะ หรือหน้าท้องหย่อนคล้อยมักจะเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำลายความมั่นใจในการใช้ชีวิตของใครหลายๆ คน หากคุณกำลังมองหาวิธีในการแก้ไขปัญหานี้ ในบทความนี้จะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องว่าเกิดจากอะไร พร้อมวิธีแก้ไขหน้าท้องหย่อนยานด้วยวิธีธรรมชาติ หัตถการ และการศัลยกรรม ไปติดตามกันได้เลย!
เนื้อหาที่น่าสนใจ
ทำความเข้าใจ พุง มีกี่ประเภท
พุง คือ ไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้อง ไขมันในที่นี้คือไขมันดื้อที่สามารถนำออกได้ยาก เกาะตัวกันแน่นจนเพิ่มขนาดของหน้าท้อง ยิ่งมีเยอะ ก็ยิ่งทำให้หน้าท้องหย่อนคล้อย โดยสามารถแยกออกเป็น 5 ประเภทหลัก ดังนี้
- พุงคุณแม่หลังคลอด พุงประเภทนี้จะเกิดกับคุณแม่หลังคลอดบุตรที่ไม่ได้อยู่ไฟหลังคลอดเพื่อฟื้นฟูร่างกาย มีลักษณะเป็นพุงห้อยหย่อนลงมา แต่พุงลักษณะนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะร่างกายจะค่อยๆ กลับเข้าสู่สภาวะปกติได้เอง แต่ถ้าหากออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย จะยิ่งทำให้พุงลดเร็วมากยิ่งขึ้นไปอีก
- พุงจากความเครียด เกิดจากภาวะความเครียด การพักผ่อนน้อย และรวมไปถึงการดื่มเครื่องดื่มประเภทคาเฟอีนมากเกินไป ลักษณะของพุงจะมีไขมันเกาะตัวเป็นชั้นๆ ช่วงสะดือจนถึงกะบังลม นอกจากพุงประเภทนี้จะทำให้เสียบุคลิกภาพแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของโรคลำไส้แปรปรวนได้ด้วย
- พุงเป็นชั้น เป็นหนึ่งในพุงที่พบได้มากในคนทั่วไป เนื่องจากรับประทานอาหารที่มีน้ำตาล ขาดการออกกำลังกาย และการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ทำให้ร่างกายมีการสะสมของแคลอรีสูงจนเกิดเป็นชั้นไขมัน
- พุงป่อง มีลักษณะเป็นพุงป่องกลมๆ ซึ่งเกิดมาจากแก๊สในกระเพาะ หรือการรับประทานอาหารที่ย่อยยาก ทำให้ในช่วงเวลาเช้าไม่มีพุงยื่นออกมา แต่ในช่วงเที่ยง หรือบ่าย จะเห็นว่ามีพุงดันตัวออกมาบริเวณหน้าท้อง
ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย เกิดจากอะไร
ไปดูกันว่าสาเหตุของหน้าท้องหย่อนคล้อย หรือการมีไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้องมีอะไรบ้าง
การคลอดบุตร
ช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ชั้นผิวหนังจะมีการขยายขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่คุณแม่คลอดบุตรแล้ว ผิวหนังจะเกิดการหดตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้คอลลาเจน และอิลาสตินในชั้นผิวที่ทำหน้าที่เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนังเสียหาย เหตุนี้นี่เองที่ทำให้หน้าท้องของคุณแม่หลังจากคลอดบุตร มีลักษณะหย่อนคล้อย แต่หลังจากนี้ไม่นานหน้าท้องจะค่อยๆ กลับเข้าสู่สภาวะปกติได้เอง
อายุที่มากขึ้น
ยิ่งอายุเยอะ โครงสร้างของผิวหนังจะค่อยๆ เสื่อม และเสียหายไปตามกาลเวลา หากไม่ดูแลผิวหนังให้ดี จะเริ่มสังเกตถึงอาการหย่อนคล้อยของผิวหนังอย่างเห็นได้ชัด หากคุณเป็นคนรับประทานอาหารประเภทไขมัน หรือน้ำตาล และไม่ค่อยออกกำลังกาย จะยิ่งเป็นการสะสมไขมันเสียในร่างกาย ทำให้เห็นชั้นไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้องได้ง่ายมากยิ่งขึ้นไปอีก
การลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี
ในผิวหนังของมนุษย์จะมีคอลลาเจน และอิลาสตินที่ทำหน้าที่เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนังอยู่ หากมีการลดน้ำหนักผิดวิธี และทำให้ไขมันในร่างกายสลายไปอย่างรวดเร็ว จะทำให้คอลลาเจน และอิลาสตินในชั้นผิวเสื่อม และทำงานผิดปกติไปด้วย จึงทำให้การลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วนเกิดปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยตามมาด้วย
การดูดไขมันออกมามากจนเกินไป
หากมีไขมันบริเวณหน้าท้องมากๆ และเลือกวิธีการดูดไขมันออกเพียงอย่างเดียว จะส่งผลให้ผิวหนังที่ขยายเพื่อรองรับกับชั้นไขมันที่เพิ่มขึ้นมานั้นกลายเป็นผิวหนังเหี่ยวย่น และหย่อนคล้อยจนเห็นได้ชัด หากต้องการดูดไขมันออก จึงจำเป็นต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วยเพื่อกระชับชั้นผิวหนังให้มีขนาดที่เหมาะสมกับร่างกาย
การทำศัลยกรรมหน้าท้องมาก่อน
สำหรับผู้ที่ศัลยกรรมบริเวณหน้าท้องมาก่อน มีโอกาสสูงทีเดียวที่ชั้นผิวหนังบริเวณดังกล่าวจะมีร่องรอยของแผลเป็น และชั้นผิวหนังที่หย่อนคล้อยอย่างชัดเจน
ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยมีข้อเสียอย่างไรบ้าง
การมีหน้าท้องหย่อนคล้อยไม่ได้ส่งผลแค่กับเรื่องบุคลิกภาพ หรือระดับความมั่นใจแต่เพียงเท่านั้น เพราะยังมีข้อเสียอีกมากมายที่จะตามมา ดังนี้
- ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
- โรคไขมันในเลือดสูง
- โรคเบาหวาน
- โรคหัวใจ
- โรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือด
- โรคอัลไซเมอร์
- โรคหลอดเลือดสมอง
- ภาวะไขมันพอกตับ
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
รวม 9 วิธีแก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนยาน ให้หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม
ในการแก้ไขปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยสามารถจัดการได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นวิธีทางธรรมชาติ การทำหัตถกรรม หรือการศัลยกรรมก็เป็นทางเลือกที่ผู้คนในยุคปัจจุบันให้ความสนใจ เนื่องจากเห็นผลชัดเจน และใช้ระยะเวลาในการกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้อย่างรวดเร็ว รายละเอียดแต่ละวิธีจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันต่อได้เลย
1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
สาเหตุหลักของการมีไขมันส่วนเกินคือการรับประทานอาหารประเภทไขมัน และเกิดการสะสมบริเวณหน้าท้อง การลดปริมาณอาหารที่มีแคลอรีสูงจึงถือเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด และควรรับประทานอาหารที่ให้ประโยชน์กับร่างกาย หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป ของทอด และของหวาน รวมไปถึงการลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อแก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนยานได้ดีมากขึ้น
2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายส่งผลดีต่อร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการกระชับหน้าท้อง โดยสามารถหาท่าออกกำลังกายประเภทเวทเทรนนิ่ง ที่เน้นการออกกำลังกายเพื่อกระชับสัดส่วน ซึ่งวิธีนี้จำเป็นต้องใช้วินัย และความต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ โดยควรใช้เวลาในการออกกำลังกายประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายได้
3. CoolSculpting
การทำหัตถการที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันคือ CoolSculpting นวัตกรรมที่ใช้ความเย็นติดลบ 11 องศา ผสมผสานกับการนวดแบบพิเศษ เพื่อกำจัดก้อนไขมันอย่างถาวร วิธีนี้ไม่ใช่การลดความอ้วน แต่เป็นการกำจัดไขมันเฉพาะส่วน ทำให้ผู้ที่มีปัญหาหน้าท้องหย่อนยาน หรือหน้าท้องหย่อนคล้อยใช้วิธีนี้ในการแก้ปัญหา เนื่องจากจัดการได้ตรงจุด และเห็นผลรวดเร็ว โดยหลังจากทำโปรแกรมนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว คนไข้อาจมีอาการบวมบริเวณจุดที่นวดไป แต่ไม่เกิน 3-4 สัปดาห์ อาการบวมจะค่อยๆ หายไปเอง ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
4. Thermage
Thermage เป็นหัตถการที่เน้นการกระชับสัดส่วนมากกว่าการกำจัดไขมันส่วนเกิน เหมาะสำหรับคุณแม่หลังคลอดที่มีผิวหนังบริเวณหน้าท้องหย่อนคล้อยกว่าปกติ นอกจากนี้เครื่อง Thermage สามารถใช้กับบริเวณอื่นๆ ในร่างกายได้ด้วย เช่น แขน ขา หรือน่อง เป็นต้น
5. Hifu
Hifu ช่วยกระชับผิวหนังที่เหี่ยวย่น หรือหย่อนคล้อยให้กลับมาดูเต่งตึงได้อีกครั้ง วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหนังให้กลับมาเข้าสัดส่วนอีกครั้ง และคนที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินไม่มากนัก เป็นหัตถการที่เห็นผลลัพธ์โดยไม่ต้องมีการผ่าตัดใดๆ
6. เมโสแฟต
เมโสแฟตเป็นการฉีดสารละลายเข้าสู่พื้นที่ที่มีไขมันกระจุกหนาแน่น เพื่อให้ชั้นไขมันเสียที่เกาะตัวกันแตกตัวออก อย่างไรก็ตาม การใช้วิธีนี้ในการกำจัดไขมันส่วนเกินนั้น ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล เนื่องจากมีบางคนที่ทำแล้วเห็นผล และมีบางคนที่ไม่เห็นผลลัพธ์ตามที่ตัวเองต้องการ เพราะหัตถการประเภทนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายนั่นเอง
7. ดูดไขมัน
การดูดไขมันเป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินที่ตรงจุด เนื่องจากเป็นการนำไขมันเสียที่มีการเกาะตัวกันแน่นในบริเวณใดบริเวณหนึ่งออกมาจากร่างกายโดยตรง วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันสะสมจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดผิวหนังหน้าท้องหย่อนยานชัดเจน ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาไขมันสะสมเล็กน้อย เนื่องจากมีวิธีอื่นที่เหมาะสม ปลอดภัย และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่านั่นเอง
8. เครื่องกระชับสัดส่วน
เครื่องกระชับสัดส่วนถือเป็นเครื่องมือประเภทพิเศษ ที่เป็นการนวดเย็น และนวดร้อน เพื่อให้บริเวณที่นวดดูกระชับขึ้น แต่การเลือกใช้วิธีนี้เพื่อแก้ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยนั้น ไม่สามารถจัดการปัญหาได้อย่างถาวร เพราะต้องทำอย่างต่อเนื่อง และทันทีที่ขาดความต่อเนื่อง หน้าท้องจะกลับมาอยู่ในสภาวะเดิม
9. ศัลยกรรมหนังหน้าท้อง
การตัดหนังหน้าท้อง เป็นการผ่าตัดบริเวณหน้าท้องส่วนล่าง เปิดชั้นผิวหนังออก และเย็บกล้ามเนื้อด้านล่างให้กระชับมากยิ่งขึ้น เป็นการนำไขมันส่วนเกินออกมาได้ทั้งหมด แต่แน่นอนว่าแลกมาด้วยความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด ข้อควรรู้คือการศัลยกรรมหนังหน้าท้องนั้น สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินที่เกาะตัวกันแน่นบริเวณหน้าท้องได้ แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวหนังหย่อนยานได้ อีกทั้งยังมีผลข้างเคียงอย่างการเป็นแผลเป็นถาวรอีกด้วย
สรุป
ปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อยเกิดจากการที่ไขมันเสียสะสมบริเวณหน้าท้องจำนวนมาก และขาดการดูแลร่างกายที่ดี ทำให้เกิดพุงขึ้นมาในที่สุด การมีพุงนั้นไม่ได้ส่งผลเสียแค่กับเรื่องของบุคลิกภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุของโรคร้ายแรงหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ โรคไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือด หรือทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับได้อีกด้วย
วิธีการดูแล และกำจัดไขมันส่วนเกินเพื่อให้หุ่นของคุณกลับมาเป๊ะ และกระชับนั้นไม่ใช่เรื่องยาก อีกทั้งยังมีหลากหลายวิธีอย่างการออกกำลังกาย และเลือกรับประทานอาหาร หรือจะใช้หัตถการช่วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และประหยัดเวลาในการพักฟื้นหลังทำอีกด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย (FAQ)
หลังจากที่ได้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาเรื่องหน้าท้องหย่อนคล้อย และวิธีแก้กันไปแล้ว ต่อมาจะเป็นการคำตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาหน้าท้องหย่อนยาน ที่จะมาไขข้องใจให้กับผู้ที่กำลังสงสัยอยู่
ใครเหมาะที่จะลดไขมันหน้าท้องบ้าง?
ยังมีอีกหลายกลุ่มคนที่ควรลดไขมันหน้าท้องเพื่อสุขภาพ และเสริมบุคลิกให้ดูดีมากยิ่งขึ้น ดังนี้
- ผู้ที่มีพุงชัดเจน
- ผู้ที่มีรอบเอวเกินขนาดมาตรฐาน
- ผู้ที่ขาดความมั่นใจจากขนาดหน้าท้องของตัวเอง
- ผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมเฉพาะจุดในปริมาณมากๆ
- ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ และมีความกังวลเกี่ยวกับโรคร้ายแรง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือความดันในเลือดสูง เป็นต้น
ขนาดรอบเอวตามมาตรฐานของคนเอเชียคือเท่าไร?
ขนาดรอบเอวมาตรฐานของคนเอเชีย หากเป็นผู้ชายไม่ควรมีรอบเอวเกิน 36 นิ้ว และผู้หญิงไม่ควรมีรอบเอวเกิน 32 นิ้ว
วิธีลดพุงของผู้ชายกับผู้หญิงต่างกันหรือไม่?
ขนาดรอบเอวมาตรฐานของคนเอเชีย หากเป็นผู้ชายไม่ควรมีรอบเอวเกิน 36 นิ้ว และผู้หญิงไม่ควรมีรอบเอวเกิน 32 นิ้ว
ควบคุมอาหารแล้วแต่ยังมีพุง เกิดจากอะไร?
เป็นสิ่งที่พบเห็นได้บ่อยในกรณีของคนผอม ทั้งๆ ที่น้ำหนักไม่ได้เกินมาตรฐาน บริโภคน้อย แต่กลับมีหน้าท้อง ในส่วนนี้จะเข้าข่าย Alcohol Belly และ Hormomal Belly เนื่องจากรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลมาก หรือดื่มแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลมมาอย่างต่อเนื่อง