เสริมจมูก

หน้าปกบริการศัลยกรรมเสริมจมูก

เสริมจมูกเพิ่มความมั่นใจ ศัลกรรมจมูกใหม่ให้เข้ากับใบหน้า ต้องทำยังไง แบบไหนดี

อย่าปล่อยให้ปัญหาจมูกไม่เข้ากับรูปหน้าทำให้ใครหลายๆ คน ทั้งชายและหญิงขาดความมั่นใจ หรือรู้สึกว่าใบหน้าไม่มีมิติ ถ่ายรูปไม่ขึ้น การเสริมจมูกเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับปัญหานี้ อย่างไรก็ตาม ควรทำการศึกษาหาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้จมูกใหม่ออกมาสวยปังเข้ากับใบหน้า บทความนี้ จะพาไปรู้จักกับการเสริมจมูกว่าคืออะไร มีขั้นตอนอย่างไร ใช้วัสดุอะไรในการทำบ้าง และควรเลือกคลินิกเสริมจมูกอย่างไร เพื่อสร้างความมั่นใจให้คุณก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมจมูก

คลิกเพื่อเลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ

เสริมจมูกคือ

ทำความรู้จัก เสริมจมูก คืออะไร?

เสริมจมูก คือ การศัลยกรรมรูปแบบหนึ่งเพื่อให้จมูกออกมาโด่ง มีมิติ หรือมีรูปทรงที่สวยตามต้องการ การเสริมจมูกจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีสัดส่วนของจมูกไม่เท่ากัน หรือมีรูปจมูกผิดปกติแต่กำเนิด รวมถึงคนที่ประสบอุบัติเหตุบริเวณจมูกและใบหน้า และคนที่มีความบกพร่องทางการหายใจ โดยวัสดุที่ใช้เสริมจมูกแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ ได้แก่ ซิลิโคน (Silicone) กระดูกอ่อน (Cartilage) กอร์เท็กซ์ (Gore-tex) หรือ PTFE และเม็ดพอร์ (Medpor) เป็นต้น

เสริมจมูกเหมาะกับใคร

เสริมจมูก เหมาะกับใคร?

การเสริมจมูกเพื่อปรับรูปทรงให้โด่งขึ้น สวยขึ้น หรือเก็บปีกจมูกให้แคบลง เกณฑ์ในการพิจารณาว่าคุณสามารถทำจมูกได้หรือไม่ มีดังนี้

  • ผู้ที่เข้ารับบริการควรมีอายุ 18-20 ปีขึ้นไป เพราะอยู่ในช่วงที่โครงหน้าเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
  • ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
  • ไม่แนะนำให้เสริมจมูกกับผู้ที่ใช้ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หรือโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดผิดปกติ
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ
  • ในกรณีที่เป็นหวัด หรือมีแผลติดเชื้อ ควรทำการรักษาให้หายก่อนทำการผ่าตัด
เทคนิคเสริมจมูก

ศัลยกรรมจมูก มีเทคนิคอะไรบ้าง?

หากพบว่าตัวเองอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถเสริมจมูกได้แล้ว ทีนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่าเทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกมีอะไรบ้าง

เสริมจมูกแบบเปิด

การเสริมจมูกแบบเปิด หรือแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) เป็นการเสริมจมูกที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นการผ่าตัดปรับโครงสร้างของจมูกโดยตรงในผู้ที่มีปัญหาจมูกสั้น เนื้อจมูกน้อย หรือผู้ที่ทำการแก้ไขจมูกมาก่อนหน้า ความแตกต่างของการเสริมจมูกแบบเปิด คือ การใช้กระดูกอ่อนหลังหู หรือกระดูกอ่อนบริเวณซี่โครงมาใช้เสริม หรือเป็นฐานรองซิลิโคน เพื่อลดปัญหาจมูกทะลุ หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ หลังการผ่าตัด เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนภายในร่างกายของคนไข้ จึงมีความปลอดภัย ลดโอกาสการติดเชื้อ หรือการต่อต้านจากร่างกายมากกว่าซิลิโคน

เสริมจมูกแบบเปิดดียังไง?

  • ช่วยแก้ปัญหาทรงจมูกได้ตรงจุด เพราะช่วยปรับโครงสร้างจมูกโดยตรง
  • ได้ทรงจมูกสวยดั่งใจ เพราะสามารถทำจมูกได้หลายทรง และปรับแต่งให้เหมาะสมกับใบหน้า
  • มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นชิ้นส่วนในร่างกายของผู้เข้ารับบริการ เนื้อเยื่อจะมีการสร้างคอลลาเจน อิลาสตินอยู่เสมอ ทำให้โครงสร้างจมูกมีความแข็งแรง

ข้อจำกัดของการเสริมจมูกแบบเปิด

  • ใช้เวลาในการผ่าตัดนาน เนื่องจากการผ่าตัดค่อนข้างยากกว่าแบบปิด จึงต้องเลือกทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีประสบการณ์
  • มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการทำจมูก เช่น แผลผ่าตัด หรือทรงจมูกมีปัญหา
  • อาจมองเห็นแผลบริเวณใต้จมูก และบริเวณที่นำกระดูกอ่อนมาใช้ชัดเจน
  • ราคาสูงกว่าการเสริมจมูกแบบปิด เนื่องจากเป็นการปรับโครงสร้างจมูกภายใน
  • จำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างเคร่งครัด และมีข้อจำกัดในการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด

เสริมจมูกแบบปิด

การเสริมจมูกแบบปิด หรือแบบโคลส (Close Rhinoplasty) เป็นการเสริมจมูกที่ได้รับความนิยมาตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการศัลยกรรมจมูก โดยเป็นการผ่าตัดจากด้านในจมูก แผลที่ได้จึงมีขนาดเล็ก และมองไม่เห็นจากภายนอก มีอาการบวมช้ำน้อย วัสดุที่ใช้จะเป็นซิลิโคนเสริมเข้าไปบริเวณสันจมูกจนถึงปลายจมูก เพื่อให้จมูกดูยาว และมีมิติมากขึ้น ใช้ระยะเวลาในการทำน้อยเพราะไม่ได้เป็นการปรับโครงสร้างจมูก แต่เป็นการเสริมให้สันจมูกดูโด่งขึ้น ร่วมกับการใช้กระดูกอ่อนบางส่วนเพื่อรองฐานปลายจมูก การเสริมจมูกแบบปิดจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีทรงจมูกสวยอยู่แล้ว มีเนื้อจมูกประมาณหนึ่ง หรือมีปัญหาทรงจมูกเพียงเล็กน้อย

เสริมจมูกแบบปิดดียังไง?

  • ใช้เวลาในการทำน้อย เหมาะกับผู้ที่มีเวลาจำกัด
  • แผลมีขนาดเล็ก มองไม่เห็นจากภายนอก และมีอาการบวมช้ำน้อย พักฟื้นได้ไว
  • ได้ทรงจมูกที่สวย และดูเป็นธรรมชาติ
  • ราคาไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับราคาเสริมจมูกแบบเปิด

ข้อจำกัดของการเสริมจมูกแบบปิด

  • มีโอกาสเกิดจมูกทะลุ หรือจมูกเบี้ยวได้หลังจากใช้งานเป็นเวลานาน เนื่องจากไม่ได้ทำการปรับโครงสร้างจมูกจากภายใน โดยเฉพาะกรณีของคนที่มีปัญหาเนื้อจมูกน้อย หรือโครงสร้างจมูกไม่สมมาตร
  • มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการทำจมูก เช่น แผลผ่าตัด วัสดุมีปัญหา ทรงจมูกมีปัญหา หรือเกิดการอักเสบ และติดเชื้อได้
วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก

เสริมจมูกใช้วัสดุอะไร? แต่ละวัสดุต่างกันยังไง?

เลือกเสริมจมูกแบบที่ต้องการแล้ว ในการเสริมจมูกปัจจุบันมีการใช้วัสดุ 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

ซิลิโคนเสริมจมูก

ซิลิโคนเสริมจมูก (Silicone) เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมากกว่าการใช้เนื้อเยื่อ หรือกระดูกอ่อน เพราะสามารถปรับตามรูปทรงที่ต้องการได้ง่ายกว่า และเป็นวัสดุซิลิโคนชนิดที่ผลิตมาใช้ในทางการแพทย์โดยเฉพาะ จึงมีความปลอดภัย เกิดการปฏิกิริยาต่อต้านจากร่างกายน้อย เพราะร่างกายสามารถรับ และเชื่อมแท่งซิลิโคนกับเนื้อเยื่อได้ดี มีอายุการใช้งานที่นานไม่ต้องเปลี่ยน หรือแก้ไขบ่อยๆ จนกว่าต้องการเปลี่ยนทรงจมูกใหม่

ซิลิโคนเสริมจมูก แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป และซิลิโคนแบบแท่ง โดยมีทั้งแบบนิ่ม และแบบแข็ง สำหรับผู้ที่มีผนังจมูกบางควรเลือกใช้ซิลิโคนแบบนิ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสการเกิดจมูกทะลุ และในกรณีที่มีผนังจมูกที่หนา คนไข้สามารถเลือกใช้ซิลิโคนแบบแข็ง เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของรูปทรงจมูกที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นได้ นอกจากนี้ ซิลิโคนทำจมูกราคามักไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับการใช้วัสดุกระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อ

กระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อ

กระดูกอ่อน และเนื้อเยื่อ (Biologic Material) เป็นวัสดุที่นำมาจากร่างกายของคนไข้ เพื่อใช้ในการเสริมจมูก เช่น กระดูกซี่โครง ไขมัน กระดูกอ่อนหลังหู เป็นต้น ซึ่งวัสดุประเภทนี้มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อของผู้เข้ารับการศัลยกรรมเอง จึงเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ หรือภาวะแทรกซ้อนได้น้อยมาก อีกทั้งยังทำให้ได้จมูกที่มีรูปทรงสวยดูเป็นธรรมชาติ แต่การใช้กระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อในการทำจมูกราคาจะค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับการทำจมูกด้วยซิลิโคน

วิธีเลือกทรงจมูก

วิธีเลือกทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้า มีทรงอะไรบ้าง?

การเลือกทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้า จะช่วยให้ใบหน้ามีมิติ สมส่วน สวยเป๊ะไม่ต้องแก้ไขทรงบ่อยๆ หลักในการเลือกทรงจมูก มีดังนี้

  • วิเคราะห์ใบหน้า และหน้าผาก เพื่อประเมินทรงจมูกให้รับกับใบหน้ามากที่สุด เช่น หน้าผากแบน การเลือกทรงจมูกที่โด่งเกินไป อาจทำให้ใบหน้าดูแข็งทื่อ ไม่เป็นธรรมชาติ
  • พิจารณาทรงจมูกจากใบหน้าด้านกว้าง เช่น ผู้ที่มีโหนกแก้มชัดเจน ควรทำจมูกที่ไม่เน้นช่วงกลางจมูกจนเกินไป
  • พิจารณาองค์ประกอบโดยรวม ทั้งลักษณะรูปหน้า หน้ากลม หน้ายาว ไรผม หรือคางเพื่อให้สมส่วนกับสันจมูกกับปลายจมูก
ทรงจมูกยอดนิยม

ทรงจมูกสวยที่ได้รับความนิยม

แต่ละคนมีใบหน้าที่เข้ากับทรงจมูกแตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกทรงจมูกควรเลือกให้เข้ากับลักษณะใบหน้าของตนเอง ซึ่งทรงจมูกเด่นๆ ที่มักเป็นที่นิยม มีดังนี้

  • จมูกทรงหยดน้ำ ทรงสวยหวาน ช่วยเสริมโหงวเฮ้ง
  • จมูกทรงสโลปปลายพุ่ง มีลักษณะปลายพุ่งแต่ค่อยๆ สโลปเข้ากับรูปหน้า ไม่ดูโด่งจนเกินไป
  • จมูกทรงปลายเชิด มีลักษณะเชิดบริเวณปลายจมูก สายฝอ ดูโฉบเฉี่ยวมั่นใจ
  • จมูกทรงบาร์บี้ไลน์ ปลายมนจิ้มลิ้ม น่ารักสไตล์เกาหลี
  • จมูกทรงธรรมชาติ เพิ่มใบหน้าให้ดูมีมิติ จมูกยังคงทรงเดิมเพียงแต่โด่งขึ้นเล็กน้อย
เตรียมตัวก่อนเสริมจมูก

การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูก

การเตรียมตัวก่อนเสริมจมูกเป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงอย่างมาก เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยตามที่ต้องการ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก หากมีโรคประจำตัว แพ้ยา หรือไม่สบายควรแจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบล่วงหน้า โดยเฉพาะยากลุ่มแอสไพริน หรือไอบูโพรเฟน เพื่อทำการบันทึกประวัติ และวางแผนการผ่าตัดอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ควรดูแลสุขภาพของตนเองให้พร้อม เช่น

  • งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • งดรับประทานทานอาหารประเภทของหมักดอง และอาหารทะเล
  • งดทานอาหารเสริม และวิตามินทุกชนิดก่อนการผ่าตัด
  • งดแต่งหน้า และควรสระผมก่อนให้เรียบร้อยก่อนผ่าตัด
  • กรณีฉีดยาชาเฉพาะจุด สามารถรับประทานอาหารก่อนมาผ่าตัดได้ ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร
วิธีเสริมจมูก

ขั้นตอนการเสริมจมูก

ขั้นตอนการเสริมจมูก อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อยตามเทคนิคทำจมูก และวัสดุที่เลือกใช้ในการเสริมจมูก แต่ขั้นตอนโดยทั่วไปมีรายละเอียดได้ ดังนี้

เสริมจมูกด้วยวัสดุซิลิโคน

  1. คนไข้ทานยานอนหลับ และนอนลงบนเตียง
  2. แพทย์ทำการฉีดยาชา
  3. แพทย์ทำการตรวจสอบความพร้อมร่างกายของคนไข้
  4. แพทย์ทำการตรวจสอบความชาของร่างกายคนไข้
  5. แพทย์เริ่มลงมีดเพื่อทำการผ่าตัด โดยตำแหน่งของการผ่าตัดจะอยู่บริเวณรูจมูกส่วนปลายของจมูก
  6. แพทย์ทำการเลาะแผลผ่าตัด เพื่อให้มีขนาดรองรับกับขนาดของซิลิโคน
  7. แพทย์ใส่ซิลิโคนเข้าไปที่บริเวณดังกล่าว ก่อนทำการปรับแต่ง และเย็บผิดแผล

เสริมจมูกด้วยวัสดุกระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อ

  1. คนไข้ทานยานอนหลับ และนอนลงบนเตียง
  2. แพทย์ทำการบล็อกเส้นประสาท และฉีดยาชาบริเวณที่ต้องการผ่าตัดเพื่อนำเอาชิ้นส่วนกระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อ
  3. แพทย์ทำการผ่าตัดกระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อ ก่อนทำการตัดตกแต่งกระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อนั้นให้พอดีกับฐานจมูก และโครงสร้างกระดูกอ่อนปลายจมูก
  4. แช่กระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อในยาฆ่าเชื้อ เพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อให้มากที่สุด
  5. แพทย์เริ่มฉีดยาชาบริเวณจมูก ก่อนทำการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก พร้อมรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อกระดูกอ่อน
  6. แพทย์ทำการเย็บปิดแผลศัลยกรรมจมูก
วิธีดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก

การดูแลตัวเองหลังเสริมจมูก

การปฏิบัติตัวหลังจากผ่าตัดเสริมจมูกมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวเป็นอย่างมาก คนไข้ควรปฏิบัติตามเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับจมูกได้ดังนี้

  • 72 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด ให้ประคบเย็นบริเวณหน้าเว้นบริเวณแผล เพื่อช่วยเพื่อให้เลือดหยุดไหล ลดอาการบวม และควรนอนศีรษะสูงเพื่อให้เลือดไม่คั่งในโพรงจมูก
  • หากมีเลือดไหลใน 48 ชั่วโมง หลังจากเข้ารับการผ่าตัด ให้ใช้ไม้พันสำสีชุบน้ำเกลือเช็ดออกเบาๆ
  • หลัง 72 ชั่วโมง แผลจะเริ่มสนิท สามารถประคบอุ่นเพื่อลดรอยม่วง หรือรอยเขียวช้ำได้
  • หลีกเลี่ยงการไปในที่ที่มีฝุ่นละอองมากประมาณ 1 สัปดาห์ ป้องกันการไอ หรือจาม
  • ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ งดอาหารแข็งที่ต้องขบเคี้ยว
  • ห้ามให้บาดแผลโดนน้ำอย่างน้อย 3 วัน หลังจากนั้นสามารถล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดได้ตามปกติ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ในช่วง 1 เดือน หลังการผ่าตัด เพราะมีผลต่อการสมานแผล
  • สามารถนอนตะแคงได้ เพราะไม่ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนที่ แต่ให้หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น เลือดไหลไม่หยุด มีอาการบวม อักเสบ หรือติดเชื้อ ให้ไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม
ข้อควรระวังในการเสริมจมูก

ข้อควรระวังในการเสริมจมูก

  • หลังผ่าตัดภายในเวลา 1 เดือน ห้ามให้เกิดการกระแทกที่บริเวณจมูกเด็ดขาด เช่น หลีกเลี่ยงการชน หลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่มีการกระแทก เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล รวมถึงการออกกำลังกายหนักๆ แต่ภายหลังจาก 1 เดือน เมื่อจมูกเข้าที่แล้ว คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • ห้ามแคะ แกะ เกา หรือขยี้บริเวณจมูกเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อได้
ภาวะแทรกซ้อนจากการเสริมจมูก

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังการเสริมจมูก

ภาวะแทรกซ้อนเป็นโอกาสที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการศัลยกรรมจมูกที่ไม่ปลอดภัย หรือแพทย์ผู้ทำการเสริมจมูกมีความชำนาญไม่พอ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้น หลังจากเสริมจมูก หากเกิดอาการแทรกซ้อนดังต่อไปนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อเข้ารับการแก้ไขทันที

  • จมูกเบี้ยว คือ จมูกที่มีลักษณะเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเสริมซิลิโคนขนาดไม่พอดีกับจมูก การวางผิดตำแหน่ง หรือโครงสร้างจมูกไม่สมมาตรเป็นทุนเดิม และไม่ได้รับการแก้ไขโครงสร้างจมูก ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ อาจก่อให้เกิดปัญหาจมูกทะลุในภายหลังได้
  • ซิลิโคนทะลุ คือ ปัญหาที่เกิดจากการเสริมซิลิโคนขนาดใหญ่จนเกินไป หรือตำแหน่งการวางซิลิโคนที่ไม่มั่นคง จนเกิดเคลื่อนที่ของซิลิโคน รวมทั้งการแก้จมูกติดกันบ่อยๆ หากเริ่มมองเห็นแท่งซิลิโคนจากภายนอก หรือเกิดตุ่มน้ำขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการรักษา และแก้ไขทันที

เสริมจมูกที่ Jarem Clinic ดีกว่ายังไง?

เสริมจมูก เป็นการศัลยกรรมที่ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด การเลือกใช้เทคนิคจากการวิเคราะห์โครงสร้างจมูก และใบหน้าอย่างละเอียด เพื่อออกแบทรงจมูกที่เหมาะสม รวมถึงคลินิกต้องมีมาตรฐานกระทรวงสาธารณะสุข และมาตรฐานสากล หากใครกำลังสนใจอยากแก้ไขรูปทรงจมูก เพิ่มความเป๊ะ ความปังให้กับใบหน้า Jarem Clinic พร้อมให้บริการ เราเป็นคลินิกศัลยกรรมความงามที่ได้มาตรฐาน รับรองความปลอดภัยพร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเสริมจมูก มีบริการให้คำปรึกษา การวิเคราะห์โครงหน้า ไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุ เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละคนอย่างละเอียด ให้ทุกคนได้จมูกที่เข้ากับรูปหน้ามากที่สุด และเป็นตัวเองในแบบที่ดูดีขึ้น ที่สำคัญยังมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ พร้อมดูแลทั้งก่อนผ่าตัด ระหว่างผ่าตัด และหลังผ่าตัดด้วยความใส่ใจ

การเสริมจมูก คือ การศัลยกรรมจมูก โดยใช้วัสดุเสริมเพื่อให้มีรูปทรงที่สวยงาม ใบหน้ามีมิติมากขึ้น โดยมีเทคนิคหลักด้วยกันอยู่ 2 เทคนิค ได้แก่ การเสริมจมูกแบบเปิด และการเสริมจมูกแบบปิด วัสดุที่นิยมใช้ในปัจจุบันยังคงเป็นวัสดุซิลิโคน และวัสดุกระดูกอ่อน หรือเนื้อเยื่อ ไม่ว่าจะเป็นการรักษา แก้ไขปัญหา หรือการเสริมจมูกเพื่อความสวยงามสามารถเข้ามาปรึกษาที่ Jarem Clinic ได้ เพราะเรามีบริการศัลยกรรมเสริมจมูกจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยออกแบบ และวิเคราะห์ทุกปัญหาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อจมูกที่สวย เข้ากับรูปหน้า เสริมสร้างความมั่นใจในทุกๆ วัน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเสริมจมูก (FAQ)

หากยังมีคำถามเกี่ยวกับการเสริมจมูก บทความนี้ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อย เพื่อมาไขข้อสงสัยสำหรับใครที่สนใจทำจมูก และกำลังหาข้อมูลอยู่ เพื่อให้มั่นใจได้มากขึ้น

ในขณะทำจมูกคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลย เนื่องจากมีการใช้ยานอนหลับ และยาชาระหว่างการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม อาจเกิดอาการบวมช้ำ หรือปวดระบมในช่วงกลับไปพักฟื้น แต่ไม่ต้องกังวลเพราะเป็นอาการตามปกติ และอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ หากดูแลตัวเอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

คนที่มีเนื้อน้อยสามารถทำศัลยกรรมจมูกได้ แต่อาจมีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถทำให้โด่ง หรือเชิดมากๆ เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดจมูกทะลุได้ ทั้งนี้ สามารถปรึกษากับแพทย์เพื่อทำการประเมินเบื้องต้นก่อนได้

โดยปกติแล้วจมูกจะบวมมากที่สุดในสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด และค่อยๆ ยุบลงตามลำดับ ซึ่งการดูแลตนเอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังเข้ารับการเสริมจมูก ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้แผลหายไว และฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

หลังจากเสริมจมูก ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ งดการทานอาหารทะเล หรือของหมักดองต่างๆ เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น และลดอาการบวมช้ำ

ควรงดแต่งหน้าก่อนอย่างน้อยภายใน 1 สัปดาห์แรกหลังจากเสริมจมูก เพื่อไม่ให้มีสิ่งสกปรก หรือสะสมสิ่งแปลกปลอม ลดโอกาสเสี่ยงแผลหายช้าจากการอักเสบ การติดเชื้อ หรือการบวมช้ำ

รีวิวของเรา

บทความโดย

นพ. พลเดช สุวรรณอาภา

ศัลยแพทย์ เฉพาะทางเสริมหน้าอก

“เสริมจมูก..

จักษุแพทย์เฉพาะทางตกแต่งรอบดวงตา Occuloplastic พญ.ณัฏฐ์ธยาน์ สินประเสริฐกูล (หมอยุ้ย)

ปรึกษาหรือสอบถามได้ที่

บทความเกี่ยวข้อง