แก้ไขภาวะเบ้าตาลึก
- หน้าแรก
- /
- บริการของเรา
- /
- ศัลยกรรมตา
- /
- แก้ไขภาวะเบ้าตาลึก
ภาวะเบ้าตาลึก เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยจะมีร่องลึกเกิดขึ้นที่เหนือชั้นตา และเห็นกระดูกเบ้าตาชัดเจน ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า ไม่สดใส ซึ่งเบ้าตาลึกเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ มีทั้งเป็นตั้งแต่กำเนิด และเป็นในภายหลัง ความต่างของเบ้าตาลึกในผู้ชายกับผู้หญิงเป็นอย่างไร โดยในบทความนี้จะพาไปดูลักษณะของเบ้าตาลึก วิธีแก้ไข และวิธีป้องกัน เพื่อให้ดวงตาสดใสคงอยู่ไปนานๆ
คลิกเพื่อเลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ
ภาวะเบ้าตาลึก คืออะไร
ภาวะเบ้าตาลึก คือ อาการที่มีร่องลึกบริเวณรอบดวงตา จนเห็นกระดูกขอบเบ้าตาชัดเจน ในบางรายที่มีเบ้าตาลึกมากๆ อาจเกิดเป็นชั้นตาหลายๆ ชั้น และอาจมีอาการตาปรือ หนังตาตกร่วมด้วย ซึ่งส่งผลต่ออารมณ์บนใบหน้า ทำให้ดูเศร้าหมอง อ่อนล้า และดูแก่ก่อนวัย
ชวนสังเกตลักษณะของภาวะเบ้าตาลึก
สำหรับใครที่ไม่แน่ใจว่าตนเองมีภาวะเบ้าตาลึกหรือไม่ สามารถสังเกตได้จากลักษณะต่างๆ ดังนี้
- เห็นกระดูกเบ้าตาใต้คิ้วอย่างชัดเจน
- มีร่องลึกบริเวณเปลือกตา เหนือชั้นตา และหัวตา
- ตาปรือ ชั้นตาไม่ชัดเจน หรือมีหลายๆ ชั้นซ้อนกัน
- ดวงตาดูเศร้าหมอง อิดโรย ไม่สดใส
ภาวะเบ้าตาลึกเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง
ภาวะเบ้าตาลึกเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนี้
เบ้าตาลึกจากพันธุกรรม หรือตั้งแต่กำเนิด
หากคนในครอบครัวมีภาวะเบ้าตาลึกด้วย แปลว่าเบ้าตาลึกที่เป็นอยู่นั้นเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือเป็นตั้งแต่กำเนิด ด้วยลักษณะโครงสร้างกะโหลกที่เอื้อให้เกิดเบ้าตาลึกได้ง่าย ร่วมกับมีไขมันที่เบ้าตาน้อย จึงทำให้เกิดภาวะเบ้าตาลึกได้ แม้จะยังมีอายุไม่มากก็ตาม
เบ้าตาลึกจากการมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น
เซลล์กระดูกและไขมันใต้ผิวหนังจะฝ่อลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อไขมันน้อยลง ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตายุบตัวลงไปด้วย จนเห็นขอบเบ้าตาชัดเจน และเกิดเป็นภาวะเบ้าตาลึกได้
เบ้าตาลึกจากการทำตาสองชั้น
เบ้าตาลึกจากการทำตาสองชั้นนั้นสามารถพบได้บ่อย เนื่องจากขั้นตอนการทำตาสองชั้นนั้น แพทย์จะต้องนำไขมันในชั้นตาบางส่วนออกและจัดเรียงให้เข้าที่ เพื่อเย็บติดให้เกิดชั้นตาใหม่ หากแพทย์นำไขมันออกมากเกินไป เมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้ดูตาลึก ตาโหล เบ้าตาลึกได้
เบ้าตาลึกจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
อาการของภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนั้นมีหลายกลุ่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นคือมีอาการเบ้าตาลึกชัดเจนมากกว่าปกติ เพราะไขมันในชั้นตาหายไปจากตำแหน่ง
เบ้าตาลึกจากน้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
น้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว จะทำให้ร่างกายไม่สามารถปรับตัวจากการสูญเสียไขมันได้ทัน ใบหน้าจึงเกิดเป็นร่องลึก แก้มตอบ รวมไปถึงเบ้าตาลึกด้วย
ความแตกต่างของเบ้าตาลึกในผู้ชาย กับเบ้าตาลึกในผู้หญิง
ด้วยโครงสร้างใบหน้าระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงนั้นมีความแตกต่างกัน โดยผู้ชายจะมีกระดูกโหนกคิ้วที่สูงกว่า และมีเบ้าตาที่ลึกกว่าผู้หญิง ทำให้ผู้ชายมีโอกาสที่จะเกิดภาวะเบ้าตาลึกได้มากกว่า นอกจากนั้น ลักษณะอาการเบ้าตาลึกในผู้ชายจะส่งผลให้ตาโหล ใบหน้าดูผอมลง ส่วนเบ้าตาลึกในผู้หญิงจะทำให้ดูโทรมและดูมีอายุมากขึ้น
วิธีแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึก มีกี่วิธี ทำอย่างไรได้บ้าง
วิธีแก้ไขภาวะเบ้าตาลึกมีด้วยกัน 2 แบบ คือ แบบไม่ต้องผ่าตัด และแบบผ่าตัด ซึ่งแต่ละแบบมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
วิธีแก้ไขเบ้าตาลึกแบบไม่ผ่าผัด
วิธีแก้ไขเบ้าตาลึกแบบไม่ผ่าตัดนั้นสามารถทำได้ด้วยการใช้หัตถการเสริมความงามที่ไม่ต้องเปิดแผล ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่มีภาวะเบ้าตาลึกในระดับเริ่มต้น ยังไม่รุนแรง และไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย วิธีแก้เบ้าตาลึกแบบไม่ผ่าตัดนั้นมีด้วยกันดังนี้
การย้ายไขมัน (Fat Transfer)
ในกรณีที่ยังมีอาการไม่มาก และมีไขมันในบริเวณเปลือกตาเพียงพอ สามารถแก้ไขได้ด้วยการย้ายไขมัน (Fat Transfer) เป็นการขยับไขมันในเบ้าตาที่อยู่ลึกลงไป ให้กลับสู่ตำแหน่งที่เหมาะสม หรือนำไขมันบริเวณที่ใกล้เคียงกับเปลือกตามาเติมบริเวณเบ้าตา ลดความลึกของเบ้าตาได้
- ข้อดี – เป็นการย้ายไขมันในเปลือกตาตัวเอง จึงไม่เกิดผลข้างเคียง
- ข้อเสีย – เหมาะกับผู้ที่มีไขมันในเปลือกตาเพียงพอ และยังมีอาการไม่มากเท่านั้น
การฉีดเติมไขมัน (Fat Graft Transposition)
หากเบ้าตาลึกจากการที่ไขมันใต้เปลือกตาไม่เพียงพอ สามารถใช้การฉีดเติมไขมัน (Fat Graft Transposition) ได้ โดยวิธีนี้จะใช้การดูดไขมันจากส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ต้นขา ผ่านกระบวนการทำให้เป็นของเหลว จากนั้นจะนำมาฉีดเข้าไปยังบริเวณเบ้าตา เป็นการเติมเต็มให้ร่องลึกดูตื้นขึ้น พร้อมทั้งช่วยเพิ่มความเรียบเนียนให้กับผิวบริเวณดวงตาด้วย
- ข้อดี – ช่วยเติมเต็ม เพิ่มความเรียบเนียนรอบดวงตา และเป็นการใช้ไขมันตัวเอง จึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
- ข้อเสีย – ไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันในร่างกายน้อย ต้องทนความเจ็บหลายครั้งจากการดูดไขมันและการฉีดเติมไขมัน และใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
การฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็มกลุ่มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปในบริเวณเบ้าตา เพื่อแทนที่ผิวที่ยุบตัวลงไป ทำให้เบ้าตาดูตื้นขึ้น รวมถึงช่วยลดริ้วรอยและความหมองคล้ำใต้ตาได้
- ข้อดี – ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เห็นผลลัพธ์ได้เร็ว อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอยและรอยคล้ำใต้ตาได้
- ข้อเสีย – ฟิลเลอร์สลายตัวได้เองตามธรรมชาติ ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน ต้องฉีดซ้ำเพื่อความต่อเนื่อง และมีโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อน
การทำหัตถการอื่นๆ
หัตถการอื่นๆ อย่าง HIFU, Ulthera เป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับผิวหน้า ด้วยหลักการยิงคลื่นพลังงานลงไปยังชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อให้ชั้นผิวหดตัว พร้อมกระตุ้นให้ผิวมีการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้ผิวหน้ากระชับ ลดความหย่อนคล้อย รวมไปถึงยังเพิ่มความเต่งตึงให้กับผิวบริเวณดวงตาได้อีกด้วย จึงช่วยลดปัญหาเบ้าตาลึกให้เบาบางลงได้
- ข้อดี – มีความปลอดภัยสูง ไม่ก่อให้เกิดรอยแผล พร้อมช่วยยกกระชับ เพิ่มความเต่งตึงและเรียบเนียน เห็นผลลัพธ์ได้เร็ว
- ข้อเสีย – มีอาการเจ็บปวดจากการส่งคลื่นพลังงานลงไปในชั้นผิว ในบางรายอาจเกิดปัญหาหน้าแดงหลังทำ
วิธีแก้ไขเบ้าตาลึกแบบผ่าตัด
วิธีแก้เบ้าตาลึกแบบผ่าตัด เป็นวิธีการเปิดแผลเพื่อเข้าไปแก้ไขในระดับชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึกและมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งการผ่าตัดนั้นเป็นวิธีที่ค่อนข้างยุ่งยาก ต้องมีการเตรียมตัวทั้งก่อนและหลังผ่าตัดเป็นพิเศษ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมามีประสิทธิภาพที่สุด ดังนั้นการผ่าตัดจึงเป็นวิธีสุดท้ายที่จะแนะนำ หากวิธีการอื่นๆ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกได้ ซึ่งการผ่าตัดจะมีด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้
การศัลยกรรมตาสองชั้น
การศัลยกรรมตาสองชั้นเพื่อแก้ไขเบ้าตาลึก จะเป็นการผ่าตัดโดยเปิดแผลเล็กที่เปลือกตา จากนั้นจะนำไขมันมาเติมเต็มหรือจัดเรียงไขมันเปลือกตาให้อยู่ในจุดที่เหมาะสม และเย็บปิดแผลด้วยไหมพิเศษ สร้างชั้นตาสองชั้นที่โค้งสวยเป็นธรรมชาติ พร้อมช่วยให้เบ้าตาอวบอิ่มขึ้นได้ เหมาะกับผู้ที่มีเบ้าตาลึกในระดับน้อยจนถึงปานกลาง และผู้ที่มีภาวะนี้จากอายุที่มากขึ้น
- ข้อดี – แก้ไขเบ้าตาลึกระดับน้อยถึงปานกลางได้ดี พร้อมกับแก้ไขชั้นตาให้ดูเป็นธรรมชาติ
- ข้อเสีย – ต้องดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังผ่าตัด อาจเกิดผลข้างเคียง และไม่เหมาะกับผู้ที่มีเปลือกตาหนาหรือมีหนังตาส่วนเกินมาก
การศัลยกรรมตาสองชั้น ร่วมกับการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
หากภาวะเบ้าตาลึกมีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย จะใช้การผ่าตัดตาสองชั้นร่วมกับการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง โดยจะกรีดแผลยาวที่เปลือกตา ลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อตา จากนั้นจะดึงกล้ามเนื้อตาเพื่อเพิ่มระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งจัดเรียงไขมันในเปลือกตาให้เข้าที่ จากนั้นเย็บปิดแผลตามแนวชั้นตาที่ต้องการ เพื่อสร้างชั้นตาสองชั้น ทำให้ได้ดวงตาที่ดูสดใส เต็มอิ่ม แก้ปัญหาทั้งเบ้าตาลึกและกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้อย่างดี
- ข้อดี – ยกเปลือกตาได้มากขึ้น จึงทำให้ดวงตาดูสดใส รวมถึงสามารถตัดแต่งหนังตาส่วนเกินได้ ทำให้ได้ชั้นตาที่ชัดเจนและแข็งแรง พร้อมทั้งแก้ไขไขมันเปลือกตาได้มาก จึงแก้ปัญหาเบ้าตาลึกได้เป็นอย่างดี
- ข้อเสีย – ต้องดูแลร่างกายทั้งก่อนและหลังผ่าตัด ใช้เวลาพักฟื้นนาน และอาจเกิดผลข้างเคียงต่างๆ เช่น ตาบวมช้ำ
การเตรียมตัวก่อน และหลังการผ่าตัดแก้ไขเบ้าตาลึก
การผ่าตัดแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกนั้น สิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนผ่าตัด และการดูแลรักษาตัวเองหลังผ่าตัด หากต้องการให้ผลลัพธ์การผ่าตัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถดูแลตัวเองได้ตามแนวทาง ดังนี้
วิธีการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแก้ไขเบ้าตาลึก
การดูแลตัวเองก่อนเข้ารับการผ่าตัด จะช่วยให้การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งสามารถปฎิบัติตามคำแนะนำได้ ดังนี้
- แจ้งแพทย์เกี่ยวกับประวัติการรักษา โรคประจำตัว และยาที่ทานเป็นประจำ
- งดทานอาหารเสริม สมุนไพรต่างๆ รวมไปถึงยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดแต่งหน้า ต่อขนตา สวมใส่คอนแทคเลนส์ ในวันผ่าตัด
- เตรียมแว่นกันแดดหรือแว่นสายตาสำหรับสวมใส่ในวันผ่าตัด
วิธีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดแก้ไขเบ้าตาลึก
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดที่ดีนั้น จะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูหลังจากการผ่าตัดได้ดีขึ้น พร้อมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์การผ่าตัดให้ออกมาดีได้อีกด้วย ดังนั้นควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามแนวทางการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด ดังนี้
- หลังผ่าตัด 1 – 3 วันแรก ให้นอนยกศีรษะสูง และหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคง
- ในช่วง 1 – 3 วันแรกหลังผ่าตัด ให้ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตา เพื่อให้หลอดเลือดหดตัว ลดอาการบวมช้ำ
- หลังจากผ่าตัด 3 วัน เปลี่ยนมาใช้การประคบร้อนแทน เพื่อลดอาการบวมช้ำ
- ระมัดระวังไม่ให้แผลโดนน้ำเป็นเวลา 3 วัน
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารทะเล และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ทำความสะอาดแผลด้วยสำลีชุบน้ำเกลือ ล้างเบาๆ วันละ 2 รอบ เช้า – เย็น
- สวมใส่แว่นก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและฝุ่นละออง
วิธีป้องกันปัญหาเบ้าตาลึก
หากปัญหาเบ้าตาลึกไม่ได้เกิดจากพันธุกรรม ก็สามารถป้องกันหรือลดความเสี่ยงการเกิดเบ้าตาลึกได้ด้วยการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ – การนอนให้เพียงพอและมีคุณภาพอย่างน้อยวันละ 7 – 8 ชั่วโมง จะทำให้ร่างกายได้รับการซ่อมแซมอย่างเต็มที่ ช่วยเพิ่มความสดใสให้กับใบหน้าและดวงตาได้
- ใช้สกินแคร์บำรุงใต้ตา – เลือกใช้ครีมบำรุงหรือมาส์กใต้ตา จะเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังรอบดวงตา และชะลอการเกิดเบ้าตาลึกได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย – ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 8 – 10 แก้ว จะช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับผิวและป้องกันการยุบตัวของผิวได้
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตา – เพราะการขยี้ตาทำให้เกิดการเสียดสี เกิดเป็นริ้วรอยและเพิ่มร่องลึกรอบดวงตา
- หลีกเลี่ยงความเครียด – เพราะความเครียดทำให้ร่างกายสูญเสียการสะสมไขมัน ไขมันรอบดวงตาจึงยุบตัว เกิดเป็นเบ้าตาลึกได้
แก้ปัญหาภาวะเบ้าตาลึก ต้องดูอะไรบ้าง ควรทำที่ไหนดี
เรื่องของดวงตาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จึงต้องทำการรักษาโดยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณืและความชำนาญเท่านั้น พร้อมด้วยคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการบริการที่มีคุณภาพ อย่างที่ Jarem Clinic มีบริการแก้ปัญหาเบ้าตาลึก โดยจักษุแพทย์เฉพาะทางรอบดวงตา ใส่ใจทุกรายละเอียด พร้อมด้วยการบริการที่คำนึงถึงความปลอดภัยและความสวยงามในทุกขั้นตอน
ปัญหาเบ้าตาลึก คือ อาการที่มีร่องลึกรอบดวงตาจนเห็นขอบกระดูกเบ้าตาชัดเจน สามารถเกิดขึ้นได้จากพันธุกรรม อายุที่มากขึ้น การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และการทำตาสองชั้น แม้ว่าเบ้าตาลึกจะไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกาย แต่ส่งผลต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพ เพราะเบ้าตาลึกทำให้ดูโทรม ดูเหนื่อย ไม่สดใส จนคนรอบข้างทักได้ ดังนั้นควรแก้ไขเบ้าตาลึกให้เหมาะสม และด้วยเทคนิคการรักษาในปัจจุบันที่มีอยู่มากมาย ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการรักษาจึงจะดีที่สุด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเบ้าตาลึก (FAQ)
ข้อสงสัยเกี่ยวกับภาวะเบ้าตาลึก ทาง Jarem Clinic ได้รวบรวมคำถามพร้อมคำตอบให้แล้ว
ผ่าตัดแก้ไขเบ้าตาลึกราคาเท่าไร
ราคาผ่าตัดขึ้นอยู่กับแต่ละเคสว่ามีปัญหาเบ้าตาลึกมาจากสาเหตุใด และมีปัญหาอยู่ในระดับใด แนะนำให้พูดคุยและปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อประเมินการรักษาและค่าใช้จ่าย
หลังผ่าตัดแก้ไขเบ้าตา ตาจะดูเต็มขึ้นถาวรหรือไม่
ผลลัพธ์การผ่าตัดจะอยู่นานหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาตัวเอง เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ไขมันรอบดวงตาย่อมฝ่อตัวลงไปเรื่อยๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเบ้าตาลึกอีกครั้งได้ แต่การดูแลตัวเองที่ดี จะช่วยชะลอความแก่ และทำให้ดวงตายังเต็มอิ่มได้เหมือนเดิม
หลังการผ่าตัดใช้เวลาพักฟื้นนานไหม
โดยปกติอาการบวมจะดีขึ้นหลังจากผ่าตัดไปแล้ว 3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย
สามารถแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึก โดยไม่ผ่าตัดได้หรือไม่ ราคาเท่าไร
เบ้าตาลึกสามารถแก้ไขโดยไม่ต้องผ่าตัดได้ ด้วยวิธีการฉีดเต็มไขมัน และฉีดฟิลเลอร์ แต่วิธีการรักษานั้นขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ และค่าใช้จ่ายในการรักษาจะแตกต่างกันไปในแต่ละเคสอีกด้วย
บทความโดย
พญ. ณัฏฐ์ธยาน์ สินประเสริฐกูล
จักษุแพทย์ เฉพาะทางรอบดวงตา
“ดวงตาเป็นหลุมลึกทำให้ใบหน้าไม่สดชื่น สาเหตุส่วนใหญ่พบในคนไข้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แต่ก็พบได้ในคนไข้ที่น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว การรักษานั้นต่างกันแพทย์ต้องวินิจฉัยให้ถูกต้องว่าเคสไหนควรผ่าตัดรักษา หรือแค่เติมสารเติมเต็ม”
แชร์
จักษุแพทย์เฉพาะทางตกแต่งรอบดวงตา Occuloplastic พญ.ณัฏฐ์ธยาน์ สินประเสริฐกูล (หมอยุ้ย)