ท่านอนหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก และการดูแลตัวเอง

ผ่าตัดเสริมหน้าอก ท่านอนหลังเสริมหน้าอก วิธีนอนหลังทำนม

ปัจจุบันการผ่าตัดเสริมหน้าอก ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เนื่องจากมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย พร้อมวิธีการรักษาที่มีความปลอดภัยสูง จึงหมดกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย นอกจากนี้ก็คือวิธีการดูแลตัวเองหลังทำหน้าอก ที่สามารถทำได้เองง่ายๆ อย่างการใช้ท่านอนที่ถูกต้อง เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟู ทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน 

วิธีนอนหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก สำคัญอย่างไร?

หลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก ในช่วงแรกอาจรู้สึกปวดๆ ตึงๆ บริเวณแผล จึงต้องนอนพักฟื้นร่างกายสักระยะ โดยใช้ ท่านอนหลังเสริมอก ซึ่งเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่ส่งผลต่อกระบวนการฟื้นฟูของร่างกาย การนอนในท่าที่ถูกต้อง จะทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น ร่างกายฟื้นฟูได้เต็มที่และมีความปลอดภัยสูง

เสริมหน้าอก นอนคว่ำได้ไหม?

ท่านอนคว่ำ คือท่านอนที่ไม่ควรใช้เด็ดขาด เพราะอาจทำให้แผลผ่าตัดเกิดการปริ มีอาการบาดเจ็บ หรือหน้าอกเสียรูปทรงได้ แพทย์จึงแนะนำให้ใช้ท่านอนหงายหรือนอนเอียงข้างเล็กน้อย และใช้หมอนรองรับหลังศัลยกรรมหน้าอก เพื่อป้องกันซิลิโคนหน้าอกเคลื่อนที่

เสริมหน้าอก กี่เดือน นอนคว่ำได้

โดยทั่วไปผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก จะสามารถกลับมานอนคว่ำได้ หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และการฟื้นตัวของแต่ละบุคคล แต่ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อน เพื่อความปลอดภัย

ท่านอนหลังเสริมหน้าอก นอนตะแคง นอนราบ

นอนตะแคง หลังเสริมหน้าอกได้ตอนไหน?

เมื่อเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกมาแล้ว จะสามารถ นอนตะแคง ได้หลังจากผ่านช่วง 1 – 2 เดือนแรกขึ้นไป ในช่วงนี้คุณหมอแนะนำให้ใช้หมอนรองรับทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของหน้าอกและช่วยรักษารูปทรงหน้าอกให้คงที่

การนอนตะแคงและการฟื้นฟูตัวเอง

การนอนตะแคง อย่างถูกวิธี จะช่วยฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น ช่วยลดความดันบริเวณแผลผ่าตัด ลดอาการปวดบวมบริเวณแผลที่เกิดจากการกดทับ นอกจากนี้ก็ยังทำให้รู้สึกสบายตัว และนอนหลับดีขึ้นอีกด้วย

นอนราบ หลังเสริมหน้าอก ทำได้ไหม?

หลังการเสริมหน้าอกสามารถนอนราบได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะการนอนราบ ในช่วงเสริมอกแรกๆ อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวนัก และยังมีความเสี่ยงต่อการเคลื่อนที่ของซิลิโคนหน้าอกได้ ดังนั้นจึงควรใช้หมอนรองรับ เพื่อลดความดันบริเวณแผล และรักษารูปทรงหน้าอกนั่นเอง

การนอนราบและการฟื้นฟูตัวเอง

การใช้ท่านอนราบที่ถูกต้องหลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอกนั้น  ควรใช้หมอนรองรับที่มีความนุ่มและสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งได้ เพื่อให้ร่างกายอยู่ในท่า นอนราบ ที่เหมาะสม และช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการหน้าอกเคลื่อนที่ได้

ประโยชน์ท่านอนหลังเสริมอก

ประโยชน์ท่านอนหลังเสริมอกที่ถูกวิธี

การดูแลตัวเองด้วยท่านอนหลังเสริมอกอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ตำแหน่งของหน้าอกคงที่ และได้รูปทรงสวยตามที่ต้องการ ทั้งยังช่วยให้รู้สึกสบายตัวเวลานอน เกิดผลลัพธ์ที่ดีจนเป็นที่พอใจตามที่คาดหวังไว้

ลดอาการบวม และบาดแผลกดทับ

ท่านอนที่เหมาะสมและถูกวิธี จะทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายขึ้นในช่วงฟื้นฟูร่างกายหลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอก ทั้งยังช่วยลดอาการปวดบวมบริเวณแผล ที่มาจากการกดทับหรือเกิดจากการเคลื่อนไหวที่ผิดท่าทาง

รักษารูปทรงหน้าอก ลดความเสี่ยงซิลิโคนหน้าอกเคลื่อนที่

การนอนในท่าที่ถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงเกิดปัญหากับรูปทรงหน้าอก เช่น หน้าอกไม่เข้าที่ ซิลิโคนหน้าอกเคลื่อนที่ หรือมีอาการปวดจากการกดทับ เป็นต้น

ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น

ท่านอนหงายพร้อมหมอนรองรับที่ดี จะช่วยลดความดันบริเวณบาดแผล ทำให้แผลฟื้นตัวเร็วขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดียิ่งขึ้น

เคล็ดลับท่านอนหลังเสริมหน้าอก นอนหงาย

เคล็ดลับการนอนที่ถูกวิธีหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก

ท่านอนหงาย

ท่านอนหงาย จะช่วยลดอาการเจ็บปวด และช่วยลดความดันที่เกิดกับแผลผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงท่านอนคว่ำ เพื่อรักษารูปทรงหน้าอก ป้องกันการกดทับ และลดความเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจตามมา

เลี่ยงการพลิกตัว

ควรใช้ท่าการนอนหงายให้มากที่สุดในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก หลังศัลยกรรมหน้าอก  และหลีกเลี่ยงการพลิกตัว เพื่อให้รูปทรงหน้าอกคงที่ และมีเวลาในการฟื้นตัวที่เร็วขึ้น

หมั่นปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

ควรใช้ท่าการนอนหงายให้มากที่สุดในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรก หลังศัลยกรรมหน้าอก และหลีกเลี่ยงการพลิกตัว เพื่อให้รูปทรงหน้าอกคงที่ และมีเวลาในการฟื้นตัวที่เร็วขึ้น

วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก

นอกจากเรื่องท่านอนหลังเสริมอกที่ถูกวิธีแล้ว ก็ยังมีวิธีการดูแลตัวเองที่ผู้เข้ารับการผ่าตัด ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งวิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก มีดังนี้

  • ช่วง 2 – 3 วันหลังการผ่าตัด ควรอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเฉพาะช่วงล่างเท่านั้น ส่วนช่วงบนใช้การเช็ดตัวแทน
  • สามารถอาบน้ำได้ในวันที่ 4 หลังการผ่าตัด แต่ต้องปิดพลาสเตอร์กันน้ำทุกครั้ง เพื่อไม่ให้แผลโดนน้ำ
  • สามารถแกะพลาสเตอร์ปิดแผลได้ในวันที่ 7 หรือรอจนกว่าแผลจะแห้ง หลังจากนั้นให้ทำความสะอาดแผลทุกวันต่อเนื่องจนกว่าแผลจะหายเป็นปกติประมาณ 14วัน
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และควรมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง โดยแพทย์จะติดตามอาการหลังเสริมอกประมาณ 1 ปี
  • ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรพันผ้าประคองหน้าอกอย่างต่อเนื่อง และใส่ซัพพอร์ตบราตลอดเวลาไม่เว้นแม้แต่ตอนนอน เป็นระยะเวลาประมาณ 3 – 6 เดือน หรือจนกว่าหน้าอกจะเข้ารูป
  • เริ่มนวดหน้าอกได้ประมาณ 4 สัปดาห์ โดยนวดครั้งละ 5 – 10 นาที วันละ 2 ครั้ง
  • ควรทายารักษารอยแผลเป็นตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้รอยแผลเป็นจางลง

การใช้ท่านอนที่เหมาะสมและถูกวิธีหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อการฟื้นตัว เนื่องจากช่วยส่งเสริมการรักษาแผลผ่าตัดได้อย่างดี มีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดอาการปวดบวมแผล ลดความเสี่ยงของปัญหาที่อาจตามมาได้ นอกจากนี้ก็คือการดูแลตัวเองหลังทำหน้าอก ที่ควรปฏิบัติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามที่คาดหวังไว้

ส่วนใครกำลังมองหา คลินิกเสริมหน้าอก ปลอดภัย มั่นใจได้ Jarem Clinic เราคือคลินิกศัลยกรรมที่ได้มาตรฐานรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ผ่าตัดโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านการเสริมหน้าอก พร้อมให้คำปรึกษาให้คุณอุ่นใจทุกขั้นตอนของการผ่าตัด ติดต่อสอบถาม เพียงแอดไลน์ @jaremclinic หรือเบอร์โทรศัพท์ 091-782-0606, 02-6414091 ดูรีวิวศัลยกรรมหน้าอกเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวเสริมหน้าอก

พญ.ณัฏฐ์ธยาน์ สินประเสริฐกูล

บทความโดย

พญ. ณัฏฐ์ธยาน์ สินประเสริฐกูล

จักษุแพทย์เฉพาะทางรอบดวงตา

บทความเกี่ยวข้อง