
ดวงตาที่สวยและได้สัดส่วนจะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูโดดเด่นและมีเสน่ห์ชวนมอง แต่การทำตาสองชั้นไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังสามารถแก้ปัญหาอื่นๆ ได้ด้วย เช่น หนังตาตก ตาปรือ ตาไม่เท่ากัน กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
อีกทั้งปัจจุบันก็มีเทคนิคการทำตาสองชั้นทั้งแบบกรีดสั้นและกรีดยาว ที่ช่วยลดเวลาในการผ่าตัด ให้ผลลัพธ์ที่ดี แผลเล็ก หายเร็ว แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่าทั้งสองวิธีนี้แตกต่างกันอย่างไร และควรจะทำตา 2 ชั้น กรีดสั้นหรือยาวดี บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับการทำตาสองชั้นแต่ละแบบ พร้อมข้อดี-ข้อเสีย และคำแนะนำเบื้องต้นเพื่อเตรียมตัวก่อนทำตาสองชั้นกัน

การทำตาสองชั้น คืออะไร?
การทำตาสองชั้น คือการผ่าตัดศัลยกรรมบริเวณหนังตา ซึ่งปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายและมีวิธีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคน อาจจะทำเพื่อแก้ปัญหา เช่น หนังตาตก ตาปรือ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือทำเพื่อความสวยงาม เสริมสร้างความมั่นใจ ให้ดวงตาดูกลมโต สดใสสวยงาม และมีความคมชัดมากยิ่งขึ้น

ประเภทของการทำตาสองชั้น
การทำตาสองชั้นสามารถทำได้หลายวิธี แต่โดยทั่วไปจะนิยมใช้เทคนิคการกรีดบริเวณหนังตา ซึ่งมี 2 แบบ คือ กรีดสั้นและกรีดยาว แต่จะเลือกทำตา 2 ชั้น แบบกรีดสั้นหรือยาวดีนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าอยากได้ผลลัพธ์แบบไหน อีกทั้งยังต้องให้แพทย์ช่วยประเมินลักษณะดวงตา ปัญหา รวมถึงความเหมาะสมด้วย เพราะแต่ละวิธีมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้
การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น
การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น คือการผ่าตัดโดยกรีดเปลือกตาบนประมาณ 0.3-1 ซม. จากนั้นเย็บหนังตาให้เป็นชั้น ในบางรายอาจมีการนำไขมันส่วนเกินออกด้วย แต่จะไม่มีการตัดหนังตา จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเพียงเล็กน้อย รอยแผลจะมีขนาดเล็ก หากไม่สังเกตก็แทบจะมองไม่เห็น
ข้อดี
การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้นใช้เวลาผ่าตัดและพักฟื้นน้อย รอยแผลมีขนาดเล็ก จึงสมานได้ไว เมื่อแผลหายดีก็แทบจะมองไม่เห็นรอยแผลเป็น นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดความสูงหรือความลึก เพื่อให้ดวงตาออกมาได้รูปทรงที่ต้องการ
ข้อเสีย
เทคนิคตาสองชั้นกรีดสั้นนี้สามารถแก้ไขปัญหาชั้นตาได้เพียงเล็กน้อย แต่อาจไม่เหมาะกับบางกรณี เช่น คนที่เปลือกตาหนามาก หรือเปลือกตาหย่อนตามวัย เมื่อเวลาผ่านไปหนังตาก็อาจจะตกลงมาเหมือนเดิม เพราะไม่ได้มีการตัดหนังตาส่วนเกินออก
เหมาะกับใคร
การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้นเหมาะสำหรับคนอายุน้อยที่หนังตายังไม่หย่อนคล้อยหรือผู้ที่มีปัญหาหนังตาเพียงเล็กน้อย ลักษณะของเปลือกตาต้องไม่หนามาก ไม่มีไขมันส่วนเกินเยอะ ไม่มีปัญหาหนังตาตก คิ้วตก
การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว
การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาว คือการผ่าตัดกรีดหนังตาบนเป็นแนวยาวตั้งแต่หัวตาจนถึงหางตา สามารถแก้ปัญหาและปรับแต่งรูปทรงของดวงตาได้หลากหลาย เพราะนำไขมันออกได้มากขึ้นหรือตัดหนังตาส่วนเกินได้ด้วย จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตามาก
ข้อดี
เทคนิคตาสองชั้นแบบกรีดยาวนี้ช่วยแก้ปัญหาหนังตาได้กว้างและหลากหลายกว่า เช่น ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตกมาก เปลือกตาหนา ไขมันใต้เปลือกตาเยอะ อีกทั้งยังสามารถออกแบบรูปทรงของดวงตาได้ตามต้องการ ทั้งความสูง ความลึก ความโค้ง และยังช่วยป้องกันหนังตาตกหรือหย่อนซ้ำในระยะยาวได้อีกด้วย
ข้อเสีย
การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวใช้เวลาในการผ่าตัดและพักฟื้นมากกว่า โดยเฉพาะผู้ที่มีการตัดหนังตาร่วมด้วย จะมีอาการบวมช้ำนานกว่า และเกิดรอยแผลยาวซึ่งสังเกตเห็นได้ง่าย
เหมาะกับใคร
การทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวเหมาะสำหรับผู้สูงวัยที่มีปัญหาหนังตาหย่อน ผู้ที่มีเปลือกตาหนา หนังตาเยอะ หนังตาตก ไขมันใต้ตามาก มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เคยทำตาสองชั้นมาแล้วเกิดปัญหา รวมถึงคนที่อยากได้ตาสองชั้นที่ดูชัดเจน

ประโยชน์ของการทำตาสองชั้น
- ช่วยแก้ปัญหาชั้นตา ที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หนังตาตก ตาปรือ หรือหนังตาหย่อนคล้อยเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้คนไข้มีทัศนวิสัยที่ดีขึ้น มองเห็นได้ชัดเจน และยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และความมั่นใจได้อีกด้วย
- ช่วยเพิ่มความสวยงามให้ดวงตา และแก้ปัญหาดวงตาไม่สมดุลกับใบหน้า เช่น ตาเล็ก ตาห่าง หนังตาไม่เท่ากัน ช่วยให้ดวงตาดูสดใส สวยงาม ไม่ต้องเสียเวลาติดสติกเกอร์ตาสองชั้น

การทำตาสองชั้นเหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
เมื่อกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หนังตาจะลงมาปิดดวงตา ทำให้เหมือนลืมตาไม่ขึ้น ซึ่งอาจเป็นตั้งแต่กำเนิด หรือเป็นตอนโตจากปัจจัยต่างๆ เช่น เล่นมือถือหรือจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ขยี้ตาบ่อย ฯลฯ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทความ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากอะไร ซึ่งความรุนแรงจะมีหลายระดับ ในรายที่มีอาการรุนแรง หนังตาอาจปิดลงมามากจนกระทบต่อการมองเห็น
- ตาสองชั้นหลบใน
ปัญหาตาสองชั้นหลบใน คือลักษณะของตาสองชั้นที่มีชั้นตาเล็ก ประกอบกับมีไขมันสะสมอยู่มาก หรือเกิดการหย่อนคล้อยตามวัย ทำให้ชั้นตาถูกดันเข้าไปหลบอยู่ด้านใน ซึ่งสามารถใช้วิธีการทำตา 2 ชั้นแบบกรีดสั้นหรือยาว ช่วยแก้ปัญหาได้ดี
- ตาชั้นเดียว
คนเอเชียส่วนใหญ่มักมีตาชั้นเดียว ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นปัญหา หากแต่ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลมากกว่า บางคนจึงมาทำตา 2 ชั้นเพื่อให้ดวงตาดูกลมโตมากขึ้น ในขณะที่บางคนมีตาชั้นเดียวและยังมีหนังตาหนา หรือไขมันใต้เปลือกตามากร่วมด้วย จะทำให้ตายิ่งดูเล็ก และมองเห็นได้ไม่ชัดเจน
- เบ้าตาลึก
คนที่เบ้าตาลึก ตาจะดูโหล ทำให้ใบหน้าโทรม อิดโรย และดูมีอายุกว่าคนทั่วไป ซึ่งอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ อายุที่มากขึ้นทำให้ไขมันหนังตาลดลง หรือภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เป็นต้น แพทย์ก็จะพิจารณาว่าควรทำตา 2 ชั้น กรีดสั้นหรือยาวดีกว่ากัน และอาจใช้วิธีฉีดไขมันควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วย บอกลาเบ้าตาลึก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- หนังตาตก
เกิดจากการที่หนังตามีไขมันสะสมอยู่มากหรือมีความหย่อนคล้อยตามอายุ หากหนังตาตกเล็กน้อย ก็อาจจะแค่ทำให้ตาดูเล็ก ตาไม่เท่ากัน หรือตาสองชั้นหลบใน ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการทำตา 2 ชั้น แบบกรีดสั้น แต่ในรายที่หนังตาตกมาก จนทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจน ควรใช้วิธีทำตา 2 ชั้นแบบกรีดยาวแทน
- ตาปรือ
คนตาปรือ จะเหมือนง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา มักเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้ไม่สามารถยกเปลือกตาให้เปิดกว้างได้เท่าที่ควร หรืออาจเกิดจากความผิดพลาดในการทำศัลยกรรม ทำให้กล้ามเนื้อตาบาดเจ็บ ส่งผลกระทบต่อบุคลิก ความมั่นใจ รวมถึงการมองเห็น และอาจทำเกิดภาวะตาขี้เกียจในระยะยาว
- ชั้นตาไม่เท่ากัน
ชั้นตาไม่เท่ากัน อาจเป็นตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดจากอายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวบริเวณหนังตาหย่อนไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่ร้ายแรง และสามารถแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำตา 2 ชั้นแบบกรีดสั้นหรือกรีดยาวก็ดี แต่หากเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ควรรีบแก้ไข เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาการมองเห็นในอนาคต
- ตาไม่เท่ากัน
ตาไม่เท่ากัน อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด โครงหน้าไม่สมมาตร หรืออาจเกิดจากอุบัติเหตุก็ได้ ใครที่อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถตามไปอ่านได้ที่บทความ ตาไม่เท่ากันเกิดจากอะไร ส่วนวิธีการรักษานั้นต้องดูจากลักษณะของตาเป็นหลักว่าควรทำตา 2 ชั้นแบบกรีดสั้นหรือกรีดยาวดี เพื่อให้ดวงตาทั้ง 2 ข้างมีความใกล้เคียงกันมากที่สุด
- หัวตาปิด
คนที่หัวตาปิด ดวงตามักจะสั้นและห่างจากกันค่อนข้างมาก ส่งผลต่อความสวยงามและความสมดุลของใบหน้า สามารถแก้ไขได้โดยการทำศัลยกรรมเปิดหัวตาร่วมกับการทำตาสองชั้น เพื่อให้ดวงตาเปิดกว้าง และดูสมส่วน รับกับใบหน้า
- อยากให้ตาโต แต่ชั้นตาไม่ใหญ่
การทำตา 2 ชั้น ช่วยให้ดวงตาที่เล็กดูโตขึ้น และยังสามารถเลือกได้ด้วยว่าอยากได้ดวงตาแบบไหน ทำตา 2 ชั้น แบบกรีดสั้นหรือแบบกรีดยาวดี อยากปรับแต่งส่วนไหนเป็นพิเศษ ทั้งนี้แพทย์จะทำการประเมินความเหมาะสมอีกครั้ง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเข้ากับรูปหน้ามากที่สุด
- แก้ไขตาสองชั้นที่เคยทำมาก่อน
เมื่ออายุมากขึ้นหนังตาจะหย่อนคล้อยลง ดังนั้นแม้จะเคยทำตา 2 ชั้นมาแล้ว ก็อาจเกิดปัญหาซ้ำ แต่สามารถเย็บหนังตาขึ้นไปใหม่ได้ ส่วนคนที่เคยทำตา 2 ชั้นมาแล้วไม่พอใจในผลลัพธ์ หรือเกิดปัญหาตามมา เช่น หนังตาตก ตาไม่เท่ากัน จะแก้ยาก เพราะผิวบริเวณนี้บอบบาง จึงต้องอาศัยความชำนาญและการวางแผนที่รอบคอบ

ก่อนการทำตาสองชั้นควรเตรียมตัวอย่างไร
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- สระผมให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้แผลโดนน้ำหลังผ่าตัด
- ไม่ต้องงดอาหาร แต่ให้งดอาหารเสริม โดยเฉพาะวิตามิน C วิตามิน E น้ำมันตับปลา และสมุนไพรต่างๆ 2 สัปดาห์ก่อนทำ
- หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ รวมถึงแจ้งชื่อยาที่ทานประจำ
- งดยากลุ่มแอสไพริน หรือไอบิวโพรเฟน เนื่องจากเป็นยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเกล็ดเลือด
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์ก่อนทำ
- ลาหยุดล่วงหน้า เพราะหลังทำตา 2 ชั้น ไม่ควรใช้สายตามาก และไม่ควรขับรถกลับเอง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

หลังการทำตาสองชั้นควรดูแลอย่างไร
- สวมแว่นกันแดด เพื่อป้องกันแสงแดดและฝุ่นละออง
- ระวังไม่ให้แผลโดนน้ำหรือเหงื่อ เพื่อลดความเสี่ยงแผลอักเสบติดเชื้อ
- ใช้วิธีเช็ดหน้าแทนล้างหน้า โดยหลีกเลี่ยงบริเวณดวงตา
- นอนหนุนหมอนสูงในช่วง 2 คืนแรก เพื่อลดบวม
- หมั่นประคบเย็นในช่วง 3 วันแรก เพื่อบรรเทาอาการปวดบวม โดยควรหาผ้ามารองไว้เพื่อไม่ให้แผลโดนน้ำ
- หลังจากวันที่ 3 ให้เปลี่ยนมาประคบอุ่น จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี บรรเทาอาการฟกช้ำ
- หลีกเลี่ยงการใช้สายตาหนัก หรือเพ่งสายตาเป็นเวลานาน
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังหนัก เพื่อไม่ให้เหงื่อออกเยอะ
- ดูแลความสะอาด โดยใช้คอตตอนบัดชุบน้ำเกลือ เช็ดบริเวณแผลอย่างเบามือวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ตามด้วยยาฆ่าเชื้อที่แพทย์สั่งให้
- งดอาหารหมักดอง 2 สัปดาห์ เพราะอาจมีเชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้แผลติดเชื้อ หรือเกิดแผลเป็นนูน
- ทานยาที่แพทย์สั่งให้ครบ เช่น ยาแก้ปวด ยาลดบวม และกลับมาพบแพทย์เพื่อตัดไหมให้ตรงตามเวลาที่นัดไว้
การทำตาสองชั้น คือการศัลยกรรมเปลือกตา ซึ่งวิธีที่นิยมใช้มี 2 แบบ คือการกรีดสั้น ที่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาน้อย อยากปรับแต่งให้ดวงตาดูโตขึ้น และการกรีดยาว ที่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหามาก เช่น ตาปรือ หนังตาตกมาก กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ฯลฯ ซึ่งที่ Jarem Clinic มีบริการทำตาสองชั้นทั้ง 2 แบบ หากไม่แน่ใจว่าควรทำตา 2 ชั้นแบบไหน กรีดสั้นหรือกรีดยาวดี ก็สามารถมาปรึกษาและให้แพทย์ตรวจเบื้องต้นได้ โดยจะมีศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการที่สามารถวิเคราะห์ปัญหา และออกแบบรูปทรงของดวงตาให้เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละคนโดยเฉพาะ
Q&A
1. หากมีปัญหาหนังตาไม่เท่ากันสามารถทำตาสองชั้นได้หรือไม่?
หนังตาไม่เท่ากันสามารถทำตาสองชั้นได้ โดยใช้วิธีตัดหนังตาส่วนเกินออก เย็บชั้นตาใหม่ และปรับแต่งให้ออกมาเท่ากัน โดยอาจจะผ่าข้างเดียวหรือ 2 ข้างขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
2. การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น และกรีดยาวมีรอยแผลเป็นหรือไม่?
การทำตาสองชั้นทั้งแบบกรีดสั้นและกรีดยาว อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้เช่นเดียวกัน แต่หากดูแลแผลให้ดี ไม่ให้เกิดการติดเชื้อ แผลจะหายเร็ว เวลาหลับตาจะเห็นเพียงเส้นสีขาวเล็กๆ บางๆ เท่านั้น
3. การทำตาสองชั้นใช้เวลานานแค่ไหน?
การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้นใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 30-45 นาที ส่วนการทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวจะใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือและความชำนาญของแพทย์ด้วย
4. การทำตาสองชั้นเจ็บหรือไม่?
ก่อนการผ่าตัด แพทย์จะวางยานอนหลับและฉีดยาชา จึงจะไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการผ่าตัด แต่หลังการผ่าตัดทำตา 2 ชั้นไม่ว่าจะแบบกรีดสั้นหรือกรีดยาวก็ดี จะมีการปวด บวม ช้ำ เล็กน้อย แต่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้
5. อายุเท่าไรจึงสามารถทำตาสองชั้นได้?
กฎหมายกำหนดให้ทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นได้ เมื่ออายุ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่ โครงหน้าและหนังตาเริ่มอยู่ตัว จึงให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่หากเป็นเด็กที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงก็สามารถทำได้เลย
6. ทำไมต้องทำตาสองชั้นกับ Jarem Clinic?
Jarem Clinic มีความพร้อมทั้งสถานที่ และมีเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ทันสมัย รวมถึงศัลยแพทย์ที่มากด้วยประสบการณ์ มีความชำนาญในด้านการศัลยกรรมตกแต่งรอบดวงตาโดยเฉพาะ สามารถให้คำปรึกษาในการทำตาสองชั้นได้ทั้งแบบกรีดสั้นและกรีดยาว วิเคราะห์ปัญหาพร้อมออกแบบดวงตาให้เข้ากับใบหน้าของคนไข้แต่ละคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด