ผ่าตัดถุงใต้ตา
- หน้าแรก
- /
- บริการของเรา
- /
- ศัลยกรรมตา
- /
- ผ่าตัดถุงใต้ตา
ถุงใต้ตา วิธีรักษา และแก้ไขถุงใต้ตา
ปัญหาถุงใต้ตาบวม เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย และเกิดจากหลายสาเหตุ ถึงแม้ปัญหานี้จะไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพ แต่ก็สร้างความอ่อนล้าให้กับใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย จนหลายคนที่พบเจอกับปัญหานี้เกิดความกังวลใจ ขาดความมั่นใจ หากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน ก็อาจทำให้ปัญหานี้ลุกลามจนแก้ไขได้ยากนะคะ และด้วยความที่ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางมากๆ เราควรต้องดูแลผิวหนังบริเวณนี้ อย่างถูกวิธีด้วยค่ะ
คลิกเพื่อเลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ
ถุงใต้ตาเกิดจากอะไร?
เกิดจากการที่ผนังกั้นเปลือกตาล่างอ่อนแอลงเนื้อเยื่อที่ค่อยพยุงไขมันตาไว้เกิดอ่อนแรง ทำให้ไขมันที่อยู่ในบริเวณตาเกิดการยื่นหรือหย่อนออกมา
ทำให้เกิดเป็นลักษณะถุงเกิดขึ้น และจะหย่อนมากขึ้นเรื่อยๆตามอายุที่มากขึ้น
วิธีการรักษาถุงใต้ตา
การรักษาจะยากขึ้น เพราะการดูแลตัวเองให้ดีก็ไม่สามารถช่วยให้อาการลดลงได้ การรักษามีหลายวิธี ได้แก่
1. การผ่าตัดถุงใต้ตา
โดยการเก็บไขมันและผิวหนังส่วนเกินออก วิธีนี้จะสามารถช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงและดูไม่เหนื่อยล้า
โดยวิธีผ่าตัดมี 2 วิธีด้วยกันคือ
- ผ่าตัดผ่านทางเยื่อบุตา (transconjunctiva lower blepharoplasty)
เหมาะกับผู้ที่มีไขมันเกินแต่ยังไม่มีผิวใต้ตาหย่อนคล้อย โดยวิธีนี้แพทย์จะผ่าตัดผ่านทางเยื่อบุแผลด้านในตา ข้อดีคือ ไม่มีแผลผ่าตัดบริเวณภายนอก - ผ่าตัดผ่านผิวหนัง (subcutaneous blepharoplasty)
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีถุงไขมันใต้ตามากและมีผิวใต้ตาหย่อนคล้อย แผลจะอยู่ชิดกับขอบตาล่าง โดยไม่ว่าจะทำการผ่าตัดด้วยวิธีไหน การนำไขมันออกในปริมาณที่เหมาะสมร่วมกับการย้ายไขมันในตำแหน่งบริเวณใต้ตา เพื่อทำให้ขอบตาล่างดูเต็ม และไม่เป็นร่องลึกใต้ตา ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ใช้รักษากันอยู่ในขณะนี้ ผิวบริเวณตาเป็นจุดที่บอบบางมาก การผ่าตัดจึงต้องอาศัยแพทย์ที่มีความชำนาญสูง
2. การฉีดสารเติมเต็มไปที่บริเวณร่องใต้ตา (filler)
อาจช่วยได้บ้างแต่ไม่ถาวร อีกทั้งมีความเสี่ยงฉีดเข้าเส้นเลือดตา อาจทำให้ตาบอดได้
3. การกระชับผิวด้วยเลเซอร์
วิธีเหล่านี้ก็เป็นเพียงวิธีที่ช่วยลดอาการบวมของถุงใต้ตาได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ช่วยรักษาโดยตรง ถ้าหากในรายที่เป็นมากก็ต้องใช้วิธี
การผ่าตัด เพื่อนำไขมัน ของเหลว และผิวหนังส่วนเกินใต้ตาที่หย่อนคล้อยออก ผู้ที่มีปัญหาควรปรึกษากับจักษุแพทย์เฉพาะทาง เพื่อการรักษาที่ปลอดภัยและได้ผลดี
4. การใช้ครีมทารอบดวงตา
เป็นการช่วยชะลอการหย่อนคล้อยของผิวหนังเท่านั้น ไม่สามารถช่วยลดการหย่อนคล้อยของผิวหนังที่เกิดขึ้นไปแล้ว
5. การปรับLifestyle การบำรุงดวงตาง่ายๆที่บ้าน
- ใช้ความเย็นช่วยประคบดวงตา หลังเลิกงานก่อนนอนหาเจลเย็นๆหรือผ้าก็อซชุบน้ำเย็นประคบดวงตาก่อนนอน
- อย่าดื่มน้ำก่อนนอนมากเกินไป ลดอาหารเค็ม ลดเกลือ
- หยุดบุหรี่ ลดการสูบบุหรี่ให้น้อยลง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ถ้าเป็นภูมิแพ้ หรือรู้ตัวว่ามีสารก่อเกิดอาการแพ้ ให้หลีกเลี่ยง
ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าตัด
แม้ว่าการผ่าตัดจะเป็นวิธีช่วยรักษาถุงใต้ตา ได้ดี แต่ก็เกิดผลแทรกซ้อนได้เช่นกันได้แก่
- ขอบตาล่างปลิ้น เกิดจากตัดผิงหนังใต้ตามากเกินไปเกิดการดึงรั้ง ทำให้เห็นขอบตาล่าง
ถ้าเป็นไม่มากการนวดคลึงดวงตาสามารถช่วยได้แต่ถ้าหากว่า เป็นมากต้องรักษาโดยนำผิวหน้งส่วนอื่นมาปิดทดแทน - แผลเกินขอบตา หากกรีดผิวหนังดึงขอบตาล่างมากเกินไป หรือแพทย์คำนวนการเย็บปิดแผลไม่ดี ทำให้แผลเลยขอบไป เป็นรอยแผลเป็นที่เห็นได้ชัด
- โดนท่อน้ำตา ภาวะแทรกซ้อนนี้เกิดได้น้อย แต่ก็สามารถพบได้ เป็นภาวะที่รุนแรงบาดเจ็บต่อท่อน้ำตา ทำให้น้ำตาไหลอยู่ตลอด ต้องภาตัดรักษาด้วยวิธี Micro Surgery
ถุงใต้ตา
เป็นปัญหาดวงตาเรื่องความสวยงามอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ แม้ว่าดูเหมือนจะสามารถผ่าตัดรักษาได้ง่าย ๆ แต่ความจริงแล้วการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดเป็น หัตถการที่ยากต้องอาศัยฝีมือ ความละเอียด เพราะผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นตาปลิ้น ท่อน้ำตาบาดเจ็บ ก็เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงมาก ดังนั้นแพทย์จึงต้องมีประสบการณ์ รู้กายวิภาครอบดวงตาอย่างดี
บทความโดย
พญ. ณัฏฐ์ธยาน์ สินประเสริฐกูล
จักษุแพทย์ เฉพาะทางรอบดวงตา
“ถุงใต้ตา ทำให้มีใบหน้าแก่ก่อนวัย ปัญหานี้พบได้มากในคนสูงอายุ การรักษาก็คือผ่าตัดถุงใต้ตาออก เป็นหัตถการที่ดูเหมือนง่ายแต่ความจริงมีความยากอยู่ เพราะการตัดไขมัน หรือหนังใต้ตาส่วนเกินออกต้องระวังอย่าตัดมากเกินไป มิฉะนั้นใต้ตาอาจเป็นหลุมลึก และหลังตาล่างปริ้น (Ectropion) เป็นผลข้างเคียงที่แก้ไขได้ยาก”
จักษุแพทย์เฉพาะทางตกแต่งรอบดวงตา Occuloplastic พญ.ณัฏฐ์ธยาน์ สินประเสริฐกูล (หมอยุ้ย)