ภาวะเบ้าตาลึกหรือใต้ตาลึก คืออาการที่มีร่องลึกเกิดขึ้นในบริเวณเหนือชั้นตา ที่จะมีสาเหตุการเกิดได้จากหลายอย่าง ซึ่งจะส่งผลให้ดวงตาดูลึก เห็นกระดูกเบ้าตาได้ชัด ทำให้ใบหน้าดูอิดโรย อ่อนเพลียหรือดูเหน็ดเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา แถมยังอาจจะมีอาการอื่นๆ ตามมา เช่น อาการตาปรือ หนังตาตก มีชั้นตาหลายชั้น หรือหนังตาสองข้างไม่เท่ากัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสวยงามของใบหน้า และทำให้เสียความมั่นใจในใบหน้าเอาได้ ในบทความนี้จึงรวบรวมความรู้ การแก้ปัญหาด้วยวิธีต่างๆ เช่น การฉีดไขมันใต้ตา รวมไปถึงสิ่งที่ควรรู้สำหรับผู้ที่สนใจปัญหาเบ้าตาลึกอยู่ด้วย
เปิดสาเหตุใต้ตาลึกเกิดจากอะไร?
การเป็นเบ้าตาลึกเป็นปัญหาที่คนสามารถพบเจอกันได้บ่อย ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อความสุขและประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาใต้ตาลึกก็เกิดขึ้นได้จากหลายๆ ปัจจัย
พันธุกรรม
หากว่าคนในครอบครัวมีลักษณะใต้ตาลึกเหมือนกัน อาจจะเป็นไปได้ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดคือพันธุกรรมที่ทำให้มีโครงหน้าหรือโครงสร้างของกะโหลกที่ก่อให้เกิดเบ้าตาลึกได้ง่าย ซึ่งบางคนอาจจะเริ่มมีปัญหานี้ตั้งแต่เด็กๆ หรือตั้งแต่วัยรุ่นเลย
พักผ่อนไม่เพียงพอ
อาการพักผ่อนไม่เพียงพอจะเกิดเมื่อร่างกายมีการนอนหลับน้อยเป็นระยะเวลานาน ซึ่งมักจะเกิดร่วมกับปัจจัยอื่นๆ เช่นความเครียด สภาพแวดล้อมที่อึดอัดหรือไม่คุ้นเคย มลภาวะหรือการรบกวนจากแสงแดด ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นปัจจัยที่สามารถทำให้เกิดอาการเบ้าตาลึกได้
น้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว
หากน้ำหนักค่อยๆ ลดลงร่างกายจะสามารถปรับตัวตามได้จนไม่เกิดรอยลึกบนใบหน้า แต่ว่าการที่น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาจจะส่งผลเสียที่ทำให้เกิดอาการร่องใต้ตาลึกขึ้นได้เพราะเมื่อน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วในเวลาสั้นๆ ได้ ก็จะส่งผลให้ใบหน้าดูตอบลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากไขมันบนใบหน้าที่หายไป รวบไปถึงบริเวณรอบตาด้วย จึงทำให้เบ้าตาดูลึกได้
อายุมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น ไขมันบริเวณใบหน้า แก้ม และใต้ดวงตา จะเริ่มเกิดการฝ่อตัว ที่ทำให้ผิวรอบดวงตาหดลงจนเกิดร่องลึกบริเวณดวงตาและเห็นเป็นรอยหลุมกระดูกเบ้าตาเอาได้ ซึ่งปัจจัยเรื่องอายุนั้นอาจจะเกิดขึ้นช้าเร็วขึ้นอยู่กับแต่ละคนไป
ทำตาสองชั้น
บางครั้งปัญหาใต้ตาลึกจะเกิดจากการผ่าตัดตาสองชั้น เพราะระหว่างการผ่าตัดอาจจะเอาไขมันใต้เปลือกตาออกมามากเกินไปจนทำให้เกิดช่องว่างบริเวณผิวหนังใต้เปลือกตา เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะทำให้ผิวหนังใต้เปลือกตาจะดูลึกมากขึ้น เนื่องจากไขมันที่ครั้งหนึ่งอยู่ใต้ผิวหนังใต้ตาที่เคยทำให้ผิวดูเต่งตึงได้หายไป
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
อาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมีหลายกลุ่มซึ่งแต่ละกลุ่มก็จะมีอาการข้างเคียงที่ตามมาแตกต่างกันไป ซึ่งหนึ่งในอาการเหล่านั้นจะทำให้หนังตาตก ห้อยย้อยจนเบ้าตาลึกขึ้นได้
ใช้น้ำยาหยอดตาที่ส่วนผสมของสเตียรอยด์
อาการใต้ตาลึกยังสามารถเกิดจากการใช้น้ำยาหยอดตาที่ส่วนผสมของสเตียรอยด์เป็นเวลานานๆ ได้ หรือการใช้น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ ที่มีส่วนผสมของสารกันบูด ซึ่งจะมีส่วนทำให้ร่างกายสูญเสียไขมันออกไปจนส่งผลให้เกิดช่องว่างในผิวหนังใต้ดวงตาจนทำให้บริเวณรอบดวงตาเกิดเป็นหลุมลึกเอาได้
ชวนสังเกตแบบไหนถึงเรียกว่าเบ้าตาลึก
- สามารถสังเกตเห็นกระดูกเบ้าตาใต้คิ้วได้อย่างชัดเจน
- จะมีถุงใต้ตาเป็นชั้นๆ จนสามารถสังเกตได้
- มีร่องลึกตรงเปลือกตา เหนือบริเวณของชั้นตาขึ้นไป
- ดวงตาดูโทรม เหนื่อยหน่าย อ่อนแรง
- ดวงตามีสามชั้น ทำให้ชั้นตาดูลึก
- หากเคยทำตาสองชั้นแล้ว อาจจะมีชั้นตาที่สูงหรือหนาจนดูไม่เป็นธรรมชาติ
จบปัญหาตาโหล หน้าดูโทรม ด้วยการฉีดไขมันแก้เบ้าตาลึก
หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาใต้ตาลึกคือการเติมบางอย่างเข้าไปใต้ผิวเพื่อให้เกิดความเต่งตึง และลดความลึกของหลุมให้ดูตื้นลง และเนื่องจากอาการนี้บางครั้งอาจเกิดจากการสูญเสียไขมันในบริเวณผิวหนังใต้ตา การเติมไขมันเข้าไปจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยทำให้ร่องลึกและถุงใต้ตาดูดีขึ้น
การฉีดไขมันเข้าไปในบริเวณโพรงใต้ตาสามารถช่วยลบเลือนริ้วรอยและปรับปรุงรูปลักษณ์โดยรวมของบริเวณนั้น โดยการฉีดไขมันแก้เบ้าตาลึกจะทำด้วยการนำไขมันที่ถูกเตรียมให้กลายเป็นของเหลวฉีดเข้าไปในบริเวณเบ้าตาที่ลึก ซึ่งจะช่วยเติมเต็มให้เบ้าตาที่ลึกดูตื้นขึ้น
ด้วยลักษณะดังกล่าวจึงทำให้การฉีดไขมันเหมาะกับคนที่มีปัญหาใต้ตาลึกเกิดจากการมีช่องว่างของไขมันใต้เบ้าตา ซึ่งวิธีนี้จะมีข้อดีที่ความเรียบเนียนของผิวเปลือกตาหลังทำเสร็จแล้ว และผลลัพธ์หลังการรักษาที่อยู่ได้อย่างยาวนาน
หลังฉีดไขมันใต้ตาดูแลตัวเองอย่างไร?
หลังจากฉีดไขมันใต้ตาแล้วก็ควรจะทำการดูแลตัวเองดังนี้
- ควรประคบเย็นอย่างสม่ำเสมอหลังจากการฉีดไขมันแก้ใต้ตาลึก ในช่วง 3 วันแรก แต่หลังจากนั้นไม่ควรประคบเย็นหรือร้อนในบริเวณนั้นอีก
- ควรนอนศีรษะสูงในช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นจึงเริ่มนอนราบได้ แต่ไม่ควรนอนตะแคงหรือนอนคว่ำเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
- หลีกเลี่ยงความร้อน เพราะเซลล์ไขมันจะตายได้หากเจอกับความร้อนเป็นเวลานาน
- ไม่ควรกด นวดหรือบีบ ในบริเวณที่ฉีดไขมัน เพราะเซลล์ไขมันจะตายได้
- ไม่ควรกินอาหารรสจัดทุกประเภท เพราะจะส่งผลให้อาการปวดบวมหายช้าลง
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ และการทานของหมักดองเป็นระยะเวลา 1 เดือน
- ในช่วงเดือนแรกไม่ควรส่องกระจกมากเพราะอาจทำให้เกิดความเครียดจากอาการบวมที่เกิดจากการฉีดไขมันแก้ใต้ตาลึก
- มาตามนัดของแพทย์ เพื่อที่จะสามารถติดตามผลหลังการฉีดไขมันได้
- ควรทำแผลเป็นประจำทุกวันและหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ
- ไขมันที่ฉีดเข้าไปอาจมีโอกาสฝ่อหลังจากผ่านไป 1-3 เดือน จึงควรมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลว่าสำเร็จหรือไม่
วิธีแก้ใต้ตาลึกด้วยวิธีอื่นๆ มีอะไรอีกบ้าง?
เพราะอาการใต้ตาลึกเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย และส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของคนในด้านความงามและความมั่นใจ และอาจจะกระทบไปถึงการทำงานและการเข้าสังคม ดังนั้นการหาวิธีแก้อาการใต้ตาลึกที่เหมาะสมกับสาเหตุการเกิดของปัญหา จึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะต้องคำนึงถึง ในปัจจุบันมีวิธีที่สามารถใช้แก้ใต้ตาลึกได้หลากหลายวิธี จึงควรรับรู้เอาไว้เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของตนเองได้
ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีการรักษาใต้ตาลึกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยวิธีนี้แพทย์จะเติมสารเติมเต็มกลุ่มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าบริเวณใต้ตาไปแทนที่ว่างใต้ดวงตา ทำให้ผิวใต้ตาดูตื่นขึ้น รอยคล้ำจางลง และผิวบริเวณรอบดวงตาดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
การผ่าตัด
การผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาใต้ตาลึก จะเป็นวิธีสุดท้ายที่ถูกแนะนำ เนื่องจากเป็นวิธีที่ต้องมีการเตรียมร่างกายให้พร้อม รวมไปถึงขั้นตอนการดูแลฟื้นฟูร่างกายที่ลำบากกว่าวิธีอื่นๆ และผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการผ่าตัดด้วย ซึ่งโดยปกติการผ่าตัดจะนิยมใช้ในการแก้ปัญหาใต้ตาลึกที่เกิดจากโรคอย่าง โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือไม่ก็จะใช้วิธีการเคลื่อนย้ายไขมันให้มาอยู่ในจุดที่เติมเต็มใต้ตาแทน
ผ่าตัดทำตาสองชั้น
การผ่าตัดทำตาสองชั้นสามารถช่วยยกให้ดวงตามีความกระชับมากขึ้น ทำให้พื้นผิวบริเวณใต้ตาตึงกระชับมากขึ้น โดยการผ่าตัดทำตาสองชั้นจะเหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึกจากอายุที่เพิ่มขึ้น หรือผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึกไม่มาก
ไฮฟู่
ไฮฟู่ (Hifu) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ช่วยยกกระชับบริเวณผิวหน้าและร่างกายที่เริ่มมีมีอายุและอาจปรากฏริ้วรอยบนใบหน้า ด้วยการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ในการทำงาน ซึ่งนอกจากจะช่วยยกกระชับบริเวณผิวหน้าและรอบบริเวณดวงตาให้ดูเต่งตึงมากขึ้น แถมยังช่วยกระตุ้นให้คอลลาเจนภายในผิวหนังทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้ว การกระตุ้นให้คอลลาเจนภายในผิวหนังทำงานได้ดียังช่วยลดริ้วรอยให้น้อยลง ช่วยให้บริเวณผิวหน้าและดวงตาดูอิ่มเอมและเติมเต็มมากขึ้น จนทำให้ปัญหาใต้ตาลึกเบาบางลงไปได้ ซึ่งในปัจจุบันวิธีนี้ก็เริ่มได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมีความปลอดภัย สะดวก ไม่ก่อให้เกิดรอยแผล
ปัญหาเบ้าตาลึกเป็นสิ่งที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางพันธุกรรม การใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อม อายุที่เพิ่มขึ้นและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งปัญหาเบ้าตาลึกจะส่งผลต่อความสวยงามของดวงตาและใบหน้า ทำให้เกิดความไม่มั่นใจและไม่พึงพอใจเอาได้ ในขณะเดียวกันการแก้ปัญหาเบ้าตาลึกก็มีหลากหลายวิธีให้เลือกใช้ไม่ว่าจะเป็นการฉีดไขมันใต้ตา การฉีดฟิลเลอร์ การผ่าตัด และ การทำไฮฟู่ ซึ่งแต่ละวิธีก็จะเหมาะสมกับอาการใต้ตาลึกที่เกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันไป สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อพิจารณาทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับความต้องการและสถานการณ์ของแต่ละคน