ทำตาสองชั้น
- หน้าแรก
- /
- บริการของเรา
- /
- ศัลยกรรมตา
- /
- ทำตาสองชั้น
ทำตาสองชั้นอย่างไร ให้ชั้นตาสวย และดูเป็นธรรมชาติเหมาะกับใบหน้า
การทำตาสองชั้น คือ การทำศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมสูง เพราะรูปทรงของดวงตาที่เปลี่ยนไป ส่งผลทำให้ใบหน้าโดยรวมดูสวยงามน่ามอง และมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำตาสองชั้นออกมาแล้วจะดูสวย เนื่องจากแต่ละคนมีลักษณะทางกายวิภาคของดวงตา เช่น รูปทรงของดวงตา ลักษณะของหนังตา ไขมันใต้ตาแตกต่างกัน หากต้องการให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ และดูสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ควรเข้ารับการแนะนำและประเมินจากแพทย์ผู้ชำนาญการเสียก่อน โดยการทำตาสองชั้นคืออะไร มีเทคนิคการทำอย่างไรบ้าง มาทำความเข้าใจผ่านบทความนี้ได้เลย
คลิกเพื่อเลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ
การทำตาสองชั้น คืออะไร?
การทำตาสองชั้น คือ การใช้เทคนิคต่างๆ ในการปรับแต่งผิวหนังบริเวณเปลือกตาให้เกิดรอยพับของชั้นตาจนมีสองชั้น โดยการทำตาสองชั้นอาจมีเหตุผลเพื่อความสวยงาม เสริมสร้างความมั่นใจ ทำให้ใบหน้าดูโดดเด่นมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น หรือช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับดวงตาก็ได้
ใครบ้างที่เหมาะทำตาสองชั้น?
สำหรับผู้ที่ต้องการทำตาสองชั้น สามารถประเมินตนเองในเบื้องต้นก่อนว่ามีลักษณะ และปัญหาของดวงตาแบบใด ต้องการแก้ไขปัญหาส่วนไหนบ้าง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
คนที่มีตาชั้นเดียว และอยากมีตาสองชั้น
คนที่มีลักษณะตาชั้นเดียว คือ ไม่มีรอยพับบริเวณเปลือกตาเลย และต้องการทำตาสองชั้น เพื่อให้ดวงตาดูกลมโตเพิ่มความสวยงามของใบหน้ามากยิ่งขึ้น
คนที่มีปัญหาตาสองชั้นหลบใน
ตาสองชั้นหลบใน คือ คนที่มีชั้นตาอยู่แล้ว แต่มองเห็นไม่ชัดเจน ซึ่งเกิดจากการที่มีชั้นไขมันบริเวณหนังตาเยอะ หรือเกิดการหย่อนคล้อยเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น
คนที่มีปัญหาขนาดตาไม่เท่ากัน
คนที่มีปัญหาดวงตาทั้งสองข้างเปิดไม่เท่ากัน มักพบชั้นตาไม่เท่ากันร่วมด้วย ส่งผลทำให้เกิดปัญหาทางด้านรูปลักษณ์ และขนาดของดวงตาที่ไม่เท่ากัน ทำให้ขาดความมั่นใจเมื่อเข้าสังคม
คนที่มีภาวะหนังตาตก หรือไขมันบริเวณเปลือกตาเยอะ
หนังตาตก คือ ภาวะที่เปลือกตาบนหย่อนตกลงมา ในรายที่มีอาการมาก มักพบว่าหนังตาตกจนบดบังการมองเห็นทำให้มีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน และส่งผลต่อรูปลักษณ์ โดยอาจเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว หรือกล้ามเนื้อเกิดการหย่อนคล้อยเมื่ออายุมากขึ้น
ส่วนภาวะไขมันสะสมที่เปลือกตาเยอะ คือ อาการที่เกิดจากการสะสมของไขมันที่เปลือกตาบริเวณชั้นหนังแท้จนเกิดเป็นก้อนนูนอย่างเห็นได้ชัด ส่วนใหญ่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด ไม่มีอาการคัน ไม่เป็นอันตรายต่อดวงตา ไม่มีผลต่อการมองเห็น แต่ผู้ป่วยอาจมีอาการลืมตาได้ลำบากหรือมองเห็นวิสัยทัศน์ได้ไม่ชัดเจน เมื่อก้อนไขมันมีขนาดใหญ่หรือมีจำนวนมาก และอาจพบว่าก้อนไขมันที่เปลือกตานี้มีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างช้าๆ ได้
คนที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง มีลักษณะตาปรือ ลืมตาไม่สุด เห็นตาดำไม่ครบวง คล้ายคนง่วงนอนตลอดเวลา บางรายแม้ว่าจะมีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่ดวงตาก็ยังคงดูไม่สดใส สาเหตุอาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น ส่งผลต่อบุคลิกภาพ และความมั่นใจเป็นอย่างมาก
เทคนิคการทำตาสองชั้นด้วยวิธีต่างๆ
การทำตาสองชั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 เทคนิค โดยจะเลือกใช้เทคนิคไหนนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะ และปัญหารอบดวงตาของคนไข้แต่ละคน โดยแต่ละเทคนิคมีรายละเอียดดังนี้
1. ทำตาสองชั้นด้วยวิธีเย็บ 3 จุด (Suture Technique)
เทคนิคทำตา 2 ชั้นด้วยวิธีเย็บ 3 จุด เป็นวิธีการทำตาสองชั้นโดยไม่ต้องกรีดหนังตา แต่แพทย์จะทำการเจาะชั้นเปลือกตาเรียงกันตามแนวชั้นตา 3 ตำแหน่ง แล้วเย็บล็อกตำแหน่งหนังตาระหว่างจุดจนเกิดเป็นรอยพับชั้นตาขึ้นมา เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีตาชั้นเดียว มีไขมันหนังตาไม่หนามาก และหนังตาไม่หย่อนคล้อย
ข้อดีของการทำตาสองชั้นด้วยวิธีเย็บ 3 จุด (Suture Technique)
- ไม่เกิดรอยแผลเนื่องจากไม่มีการกรีดหนังตา
- บวมช้ำน้อย สามารถใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้น
ข้อเสียของการทำตาสองชั้นด้วยวิธีเย็บ 3 จุด (Suture Technique)
- ชั้นตาหลุดง่าย เพราะเป็นการเย็บแค่ 3 จุด จึงไม่แข็งแรง รับแรงดันเมื่อกระพริบตาได้น้อย
- ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนังตาตก หนังตาหย่อยคล้อยได้
- เอาไขมันใต้เปลือกตาออกได้น้อย
- เมื่อเวลาผ่านไปชั้นตาอาจเล็กลงได้
- อาจเห็นรอยบุ๋มตรงจุดที่เย็บ ทำให้ดูไม่เรียบเนียน
2. ทำตาสองชั้นกรีดแผลเล็ก (Short Incision Technique)
การทำตาสองชั้นด้วยเทคนิคกรีดแผลเล็ก หรือการทำตาสองชั้นกรีดสั้น เป็นการกรีดบริเวณเปลือกตาบน ด้วยรอยขนาดเล็ก เพียง 0.3 – 1 เซนติเมตร แล้วใช้ไหมเย็บจนเกิดชั้นตาขึ้นมาใหม่ เหมาะกับผู้ที่มีอายุน้อย มีตาชั้นเดียว ตาสองชั้นหลบใน ไขมันเปลือกตาไม่มาก และมีหนังตาส่วนเกินน้อย
ข้อดีของการทำตาสองชั้นกรีดแผลเล็ก (Short Incision Technique)
- บวมช้ำน้อย เนื่องจากมีรอยแผลมีขนาดเล็ก จึงฟื้นตัวได้เร็ว
- ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน
- ได้ชั้นตาชัดดูเป็นธรรมชาติ
- เอาไขมันบริเวณเปลือกตาออกได้
ข้อเสียของการทำตาสองชั้นกรีดแผลเล็ก (Short Incision Technique)
- ไม่สามารถตัดหนังตาส่วนเกินออกได้
- เอาไขมันบริเวณเปลือกตาออกได้น้อย จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีไขมันเปลือกตาหนา
3. ทำตาสองชั้นกรีดแผลยาว (Long Incision Technique)
เทคนิคการทำตา 2 ชั้น แบบกรีดแผลยาว จะทำการกรีดยาวตั้งแต่หัวตาไปจนถึงหางตา แล้วเย็บปิดบาดแผล โดยรอยกรีดนี้จะเป็นชั้นตาที่สร้างขึ้นมาใหม่ เหมาะกับผู้ที่มีอายุมาก มีตาชั้นเดียว มีไขมันเปลือกตาเยอะ เปลือกตาหนา มีหนังตาส่วนเกินมาก มีปัญหาหนังตาตก และกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือผู้ที่ต้องการแก้ตาสองชั้นที่เคยทำมาก่อน
ข้อดีของการทำตาสองชั้นกรีดแผลยาว (Long Incision Technique)
- ได้ชั้นตาที่ชัดเจนเป็นธรรมชาติ
- เอาไขมันเปลือกตาออกได้มาก และสามารถจัดเรียงไขมันใต้ตา เติมเต็มเบ้าตาได้สวยงาม
- ตัดแต่งหนังตาส่วนเกินได้
- กำหนดขนาด และออกแบบชั้นตาได้หลากหลาย
- ได้ชั้นตาที่แข็งแรง
ข้อเสียของการทำตาสองชั้นกรีดแผลยาว (Long Incision Technique)
- เนื่องจากเป็นแผลยาว จึงอาจเกิดการบวมช้ำได้มาก ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นหลังทำ
- ใช้เวลาทำการผ่าตัดนานกว่าแบบกรีดเล็ก
- อาจเกิดปัญหาชั้นตาใหม่ไม่เท่ากันได้ หรือทำให้กล้ามเนื้อตาเกิดการบาดเจ็บ ต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด
การทำตาสองชั้นร่วมกับหัตถการอื่นๆ
การทำตาสองชั้นในคนไข้บางราย อาจต้องมีการทำหัตถการอย่างอื่นร่วมด้วย เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของดวงตาอย่างตรงจุด และให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยการทำหัตถการอื่นๆ ร่วมกับการทำตาสองชั้น มีดังนี้
ทำตาสองชั้นร่วมกับการเติมเต็มไขมันรอบดวงตา
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึก เมื่อทำตาสองชั้นไปแล้ว แม้จะได้ชั้นตาที่สวยงาม แต่ภาพรวมก็ยังดูไม่สดใส เบ้าตายังคงดูลึกเหมือนเดิม อาจทำให้เห็นชั้นตาไม่ชัด การแก้ไขปัญหา คือ การนำเอาไขมันมาเติมเต็มชั้นตาเฉพาะส่วน หรือจัดเรียงไขมันเปลือกตาใหม่ เพื่อให้ดวงตาดูอวบอิ่มมากขึ้น นอกจากจะได้ชั้นตาที่สวยเห็นได้ชัดเจนแล้ว ยังทำให้ใบหน้าโดยรวมดูเด็ก และสดใสมากยิ่งขึ้น
ทำตาสองชั้นร่วมกับตัดหนังตาส่วนเกิน
การตัดหนังตาส่วนเกิน มักทำร่วมกับการทำตาสองชั้นกรีดแผลยาว โดยเป็นการตัดแต่งหนังตาส่วนเกิน เพื่อสร้างชั้นตาใหม่ วิธีนี้ทำให้สามารถกำหนดรูปร่างแนวชั้นตาได้ แก้ไขหนังตาตกได้ดี ได้ตาสองชั้นที่เห็นได้ชัดเจนและดูเป็นธรรมชาติ แต่การตัดแต่งหนังตาต้องระวังไม่ให้ตัดออกเกินขอบเบ้าตา เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาปิดตาไม่สนิทได้
ทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหัวตา และหางตา
การเปิดหัวตา และหางตา คือ การทำตาสองชั้นร่วมกับการผ่าตัดตกแต่งหนังตาบริเวณหัวตา และหางตา ทำให้หัวตาดูกว้างขึ้น รูปตาดูยาวขึ้น ขยายพื้นที่ให้เห็นส่วนของตาขาวมากขึ้น ดวงตาจึงดูกลมโตมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ตาห่าง มีหนังตาปิดบริเวณหัวตา
ทำตาสองชั้นร่วมกับการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
คนไข้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้ดูตาปรือ เหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา สาเหตุมากจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่กำเนิด หรือเกิดขึ้นมาภายหลัง กรณีนี้ไม่สามารถรักษาได้เพียงแค่ทำตาสองชั้นอย่างเดียว จำเป็นต้องเข้าไปแก้ไขกล้ามเนื้อตา และทำชั้นตาให้สมดุลมากขึ้น
รูปทรงตาสองชั้นยอดนิยม
เมื่อรู้แล้วว่าการทำตาสองชั้นนั้นมีเทคนิคการทำอย่างไรบ้าง ขั้นตอนต่อมา คือ การเลือกรูปทรงของดวงตาให้เหมาะสมกับใบหน้า และตรงกับความต้องการ โดยรูปทรงของดวงตายอดนิยม ได้แก่
ตาสองชั้นทรงอัลมอนด์
ลักษณะตาสองชั้นทรงอัลมอนด์ เน้นความชัดของดวงตา รูปทรงมีความสมดุลเหมือนเมล็ดอัลมอนด์ ให้ลุคน่าหลงใหล มีอำนาจ และทรงพลัง เหมาะกับคนที่มีเครื่องหน้าชัด ต้องการดวงตากลมโตได้รูป
ตาสองชั้นสไตล์เกาหลี
ตาสองชั้นสายเกา เป็นลักษณะชั้นตาที่เน้นความเป็นธรรมชาติ เส้นชั้นตาชัดแต่ไม่หนามาก ให้บุคลิกดูอ่อนโยน น่ารัก หวาน ละมุน เหมาะกับคนที่มีตาชั้นเดียว มีโครงสร้างดวงตาไม่ใหญ่มาก
ตาสองชั้นสไตล์ฝรั่ง
ตาสองชั้นสไตล์ฝรั่ง มีลักษณะเน้นชั้นตาชัดเจน แนวชั้นตาโค้งรับกับดวงตา หัวตาเปิด กลมโต และเรียวยาว เป็นทรงตาที่ดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์ มีความมั่นใจ เหมาะกับคนที่มีโครงสร้างดวงตาใหญ่ มีระยะห่างระหว่างคิ้วกับดวงตากว้าง ตัวอย่างคนดังที่มีดวงตาสายฝอ ได้แก่ ลิซ่า Blackpink เป็นต้น
ตาสองชั้นสไตล์บาร์บี้
ตาสองชั้นสไตล์บาร์บี้ ถือเป็นรูปทรงตาที่สาวๆ หลายคนใฝ่ฝัน เพราะมีลักษณะกลมโตเหมือนตุ๊กตา มีชั้นตาที่ชัดเจน และโค้งสวยตั้งแต่หัวตาไปจนถึงหางตา ทำให้ดูน่ารัก สดใส อ่อนกว่าวัย เหมาะกับคนที่ต้องการดวงตาที่กลมโตสดใส และเปิดกว้าง
ตาสองชั้นทรงตาหงส์
จุดเด่นของตาสองชั้นหางหงส์คือ มีหางตาที่เชิดขึ้นเหนือระดับหัวตาเล็กน้อย รูปตาดูเรียวยาว ให้ลุคที่ดูคม โฉบเฉี่ยว เหมาะกับคนที่มีหางตาสั้น ต้องการปรับมุมหางตา แก้ไขรูปทรงดวงตาให้ได้สัดส่วน คนดังที่เป็นเจ้าของดวงตาประเภทนี้ได้แก่ เจนนี่ Blackpink, ดิว อริสรา เป็นต้น
การเตรียมตัวก่อน และหลังทำตาสองชั้น
เพื่อให้การทำตาสองชั้นออกได้สวยตรงใจ มีประสิทธิภาพ และลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียง ผู้ที่ทำตาสองชั้นจึงควรดูแลร่างกาย และเตรียมตัวให้พร้อมทั้งก่อน และหลังการผ่าตัด ดังนี้
การเตรียมตัวก่อนทำตาสองชั้น
- งดสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดการบริโภคอาหารเสริมและสมุนไพรต่างๆ เช่น วิตามินซี น้ำมันตับปลา
- งดทานยากลุ่มแอสไพริน หรือไอบิวโพรเฟน
- หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันสูง ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- งดแต่งหน้า สวมใส่คอนแทคเลนส์ และต่อขนตา ในวันที่ผ่าตัด
- เตรียมแว่นสายตา และแว่นกันแดดมาให้พร้อมในวันผ่าตัด
- ควรเตรียมตัวสระผมมาให้เรียบร้อย
การดูแลตัวเองหลังทำตาสองชั้น
- ประคบบริเวณรอบดวงตาด้วยเจลประคบเย็นประมาณ 1-3 วัน เพื่อช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ลดอาการบวมช้ำ และเลือดออก แต่ไม่ควรให้เจลโดนแผลผ่าตัดโดยตรง ควรใช้ผ้าสะอาดรองก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้แผลเปียก
- หลังจากวันที่ 3 เปลี่ยนเป็นการประคบร้อน เพื่อลดอาการบวม เขียวช้ำ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ระวังอย่าใช้ความร้อนมากจนทำให้ผิวไหม้
- นอนวางศีรษะให้สูงใน 1-3 วันแรก ห้ามนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง
- ห้ามขยี้ตาแรงๆ เพราะอาจทำให้ไหมเย็บหลุด
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ของหมักดอง อาหารทะเล เพื่อป้องกันการเกิดเป็นแผลนูน
- ห้ามแผลโดนน้ำประมาณ 3 วันหลังการผ่าตัด เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
- ทำความสะอาดแผลด้วยสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดเบาๆ ให้สะอาดวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และทายาขี้ผึ้งบางๆ
- เมื่อออกจากบ้านควรสวมใส่แว่นตาเพื่อป้องกันฝุ่นละออง และสิ่งสกปรก
เลือกคลินิกทำตาสองชั้นที่ไหนดี?
มีกรณีที่พบปัญหา และผลข้างเคียงจากการทำตาสองชั้นมากมาย เช่น ชั้นตาหลุด ชั้นตาไม่เท่ากัน มีปัญหาปิดตาไม่สนิท ชั้นตาใหญ่ดูผิดธรรมชาติ เห็นรอยแผลชัดเจน หางตาตก แผลผ่าตัดติดเชื้อ ดังนั้น หากต้องการหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ที่อาจขึ้นได้ ก่อนทำตาสองชั้นต้องศึกษาเรื่องคลินิกทำตาสองชั้นให้ดีก่อน โดยควรเลือกคลินิกทีมีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย มีเครื่องมือ และอุปกรณ์การแพทย์ที่มีคุณภาพ รวมทั้งต้องมีแพทย์เฉพาะทางที่ได้รับการรับรอง ซึ่งมีความชำนาญด้านการทำตาสองชั้น ทั้งทางด้านการทำหัตถการ และมีจิตใจบริการ ที่พร้อมให้คำปรึกษาและเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด
ทำไมต้องทำตาสองชั้นที่ Jarem Clinic
Jarem Clinic มีบริการทำตาสองชั้นโดยศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ และมีประสบการณ์ในการทำตาสองชั้น โดยมุ่งเน้นการออกแบบรูปทรงชั้นตาให้เหมาะสมกับรูปหน้า และลักษณะทางภายวิภาคดวงตาของแต่ละคน ควบคู่ไปกับการประเมิน และวิเคราะห์ เพื่อแก้ไขปัญหารอบดวงตาร่วมด้วย ตลอดจนให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย พร้อมทั้งให้คำแนะนำ ดูแล และวางแผนการรักษาอย่างใกล้ชิดทั้งก่อน และหลังจากทำการรักษา ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์เป็นชั้นตาที่สวยงาม มีความเหมาะสม และดูเป็นธรรมชาติ
การทำศัลยกรรมตาสองชั้น เป็นที่นิยมทำกันมากในปัจจุบัน โดยเป็นการใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อทำให้เกิดรอยพับขึ้นบริเวณเปลือกตา ถือเป็นการสร้างชั้นตาขึ้นมาใหม่ มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความสวยงามของใบหน้า เสริมสร้างความมั่นใจ และแก้ไขปัญหาต่างๆ ของดวงตา แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำออกมาแล้วจะสวย บางคนทำออกมาแล้วเกิดปัญหา และมีผลข้างเคียง ดังนั้น หากต้องการทำตาสองชั้น ควรเลือกทำกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ โดยที่ Jarem Clinic มีแพทย์เฉพาะทางที่มีความชำนาญ และมีประสบการณ์ทางด้านการทำตาสองชั้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ผู้ที่สนใจทำตาสองชั้นสามารถเข้ารับการปรึกษา ประเมิน และแนะนำจากแพทย์ก่อนทำได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำตาสองชั้น (FAQ)
คำถามที่พบบ่อยในการทำตาสองชั้นมีดังนี้
ทำตาสองชั้นคนไทย ควรเลือกแบบสายเกาหลี หรือสายฝอ ?
สามารถทำได้ทั้งสองแบบขึ้นอยู่กับความต้องการ และลักษณะโครงสร้างดวงตาของแต่ละบุคคล
ทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น หรือกรีดยาวดี ?
จะใช้วิธีไหนนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะทางกายวิภาคดวงตาของคนไข้ และปัญหาโครงสร้างดวงตา ซึ่งจะมีความแตกต่างกัน หรือสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ “ศัลยกรรมน่ารู้ ทำตาสองชั้น กรีดสั้นหรือยาวดี?”
ต้องใช้เวลาพักฟื้นกี่วันหลังจากทำตาสองชั้น ?
ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ในการทำตาสองชั้น หากทำแบบเย็บ 3 จุด สามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ทันที แทบไม่ต้องพักฟื้น เทคนิคการกรีดสั้นอาจใช้เวลาในการพักฟื้น ประมาณ 2-3 วัน การกรีดแผลยาวประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่หากมีการทำหัตการแก้ไขปัญหาอื่นร่วมด้วยจะใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่านั้น
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด ควรทำตาสองชั้นแบบไหน ?
การทำตาสองชั้นไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ ส่วนมากจะใช้เทคนิคการทำตาสองชั้นกรีดแผลยาว และทำหัตถการอื่นควบคู่กันไปด้วยโดยการผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา โดยต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการ
บทความโดย
พญ. ณัฏฐ์ธยาน์ สินประเสริฐกูล
จักษุแพทย์ เฉพาะทางรอบดวงตา
“ทำตาสองชั้นให้สวยต้องศึกษาข้อมูล อันดับแรกเลยต้องดูว่าชั้นตาแบบไหนหมาะกับเรา เราคิดว่าชั้นตาหนาๆถึงจะสวย แต่พอทำไปแล้วไม่เข้ากับรูปหน้า หรือบางคนทำตาสองชั้นมาไม่ท่ากัน ตาปรือหนักหาที่แก้ตาใหม่หลายครั้งซึ่งความจริงตัวเรามีภาวะ “กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง“ แฝงอยู่ไม่รู้ตัว แพทย์ต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อนลงมือผ่าตัดตาสองชั้น“
จักษุแพทย์เฉพาะทางตกแต่งรอบดวงตา Occuloplastic พญ.ณัฏฐ์ธยาน์ สินประเสริฐกูล (หมอยุ้ย)