การดูดไขมัน
เมื่อไขมันส่วนเกินมาเยือน “การดูดไขมัน” จึงเป็นวิธีกำจัดไขมันส่วนเกินอันดับต้นๆ ที่ได้ผลรวดเร็วที่สุด เพราะการออกกำลังกายอาจใช้เวลานานเกินไป โดยเชื่อหรือไม่ว่า การดูดไขมันนี้มีมานานกว่า 100 ปีแล้ว เทคโนโลยีที่นำมาใช้ในการดูดไขมันถูกพัฒนาให้มีหลายแบบ เครื่องมือเครื่องไม้ก็เช่นกัน ซึ่งก่อนทำการดูดไขมันควรศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียที่จะได้รับจากเครื่องมือในแต่ละแบบกันก่อน
1. LAL (Laser Assisted Liposuction) เทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยแสงเลเซอร์
ข้อดี : แผลมีขนาดเล็ก
ข้อเสีย : เป็นการใช้ความร้อนที่ควบคุมได้ยาก อาจเกิดอันตรายต่ออวัยวะข้างเคียง
2. RFAL (Radio Frequency Assisted Liposuction) เทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยคลื่นวิทยุ
ข้อดี : เน้นการกระชับผิวจากภายนอกสู่ภายใน
ข้อเสีย : ความร้อนอาจทำให้ผิวหนังหดตัวหรือเกิดรอยไหม้ได้
3. VAL (VASER Assisted Liposuction) เทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
ข้อดี : คลื่นเสียงไม่ส่งผลกระทบกับเส้นเลือดและเส้นประสาท
ข้อเสีย : ความร้อนอาจทำให้แผลหายช้า
4. PAL (Power Assisted Liposuction) เทคโนโลยีกำจัดไขมันด้วยการสั่นสะเทือนของเครื่อง
ข้อดี : ไม่เกิดความร้อน แผลช้ำน้อยลง
ข้อเสีย : หากดูดไขมันในส่วนที่มีไขมันหนาแน่นอาจต้องใช้เวลานาน
ทั้งนี้ การพิจารณาว่าจะใช้เทคนิคการดูดไขมันแบบใดก็ขึ้นอยู่กับศัลยแพทย์เป็นผู้วิเคราะห์ ซึ่งอาจเป็นการนำเอาเครื่องมือหลายชนิดมาใช้รวมกันในจุดเดียว หรือแยกใช้ตามจุดต่างๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประเมินจากสรีระร่างกายของผู้รับบริการเป็นหลัก และหากทำการดูดไขมันออกจากร่างกายไปแล้ว ก็ต้องสร้างวินัยให้กับตนเองด้วย ทั้งเรื่องการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อให้กระชับ และไม่เกิดไขมันสะสมขึ้นมาอีก