“ดวงตา เป็นหน้าต่างของหัวใจ” เชื่อว่าหลายคนเคยได้ยินคำนี้ แม้จะเป็นคำโบราณแต่ก็สามารถใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย เพราะตาที่สวยงามนั้นมีผลต่อใบหน้าและภาพลักษณ์โดยรวม สามารถสร้างเสน่ห์ให้คนๆ นั้นน่ามองได้อย่างน่าอัศจรรย์
แต่สำหรับใครที่คิดว่าตัวเองตาไม่สวย ตาง่วง ตาปรือ หรือที่เรียกกันว่า กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ก็อย่าเพิ่งกังวลกันไป เพราะปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีวิธีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยและปลอดภัยสูง ซึ่งจะช่วยรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงให้หายขาดได้ ดังนั้นทุกคนสามารถมีดวงตาที่สวยได้อย่างเท่าเทียม
ทำไมโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คนถึงเป็นกันมากขึ้น
ภาวะเปลือกตาตก คือภาวะที่มีหนังตาหย่อนลงมามากกว่าปกติ ทางการแพทย์เรียกอาการนี้ว่า กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือ Ptosis ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อยกเปลือกตาทำงานไม่เต็มที่ ลักษณะของเปลือกตาบนตกลงมาปิดคลุมตาดำมาก ทำให้ลืมตาได้น้อย ส่งผลกระทบด้านบุคลิกภาพและความสวยงามของใบหน้า ยิ่งไปกว่านั้นบางรายมีเปลือกตาตกลงมาจนบดบังรูม่านตา ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก จึงจำเป็นต้องแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เพื่อให้ดวงตากลับมาสวยงามและใช้ชีวิตได้ปกติ
ต้นเหตุหนึ่งที่ทำให้คนยุคนี้ เริ่มมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีในยุคดิจิทัลแบบนี้ เพราะผู้คนส่วนใหญ่มักใช้เวลาในแต่ละวันไปกับการเรียน การเสพสื่อต่างๆ และทำงานผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือถือ หรือแท็บเล็ต ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำเหล่านี้ สามารถส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้อย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจากจะทำให้ดวงตาดูอ่อนล้า และเมื่อสะสมไปนานๆ อาการก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้น เพราะจะยกหนังตาไม่ค่อยขึ้น ตาปรือ และดูง่วงนอนตลอดเวลา
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เริ่มต้นเกิดจากอะไร?
ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ผู้คนยุคนี้เริ่มเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงกันมากขึ้นจะมีอะไรอีกบ้าง ลองมาเช็คปัจจัยอื่นๆ ด้วยกัน ดังนี้
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด
โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศและทุกวัย ในบางรายอาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิดเลย หรือในบางรายเพิ่งเริ่มเป็นตอนที่มีอายุเพิ่มขึ้น เนื่องจากกล้ามเนื้อยกเปลือกตามีอาการหย่อนยานจากการใช้งานบ่อย บางคนเป็นทั้งสองข้าง บางคนเป็นแค่ข้างเดียว ทำให้ตาดูไม่เท่ากัน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อบุคลิกภาพโดยรวม แต่ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยวิธีทางการแพทย์
ศัลยกรรมผ่าตัดตาสองชั้นที่ผิดพลาด
การทำตาสองชั้น ด้วยวิธีการผูกปมไหมไม่ละลายไว้ใต้ผิวตา บางกรณีอาจทำให้ปมไหมขัดไปขวางการทำงานของกล้ามเนื้อตา ทำให้รู้สึกระคายเคืองตา ดูตาปรือ และเสี่ยงที่ปมไหมจะหลุด จนเหลือตาสองชั้นเพียงข้างเดียว ทำให้ตาดูไม่เท่ากัน นอกจากนี้หากผู้ผ่าตัดไม่ชำนาญพอ จนเกิดความผิดพลาด เช่น ทำตาสองชั้น แต่ผ่าตัดไปโดนกล้ามเนื้อตา ก็จนส่งผลทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้เลยทีเดียว
อายุที่มากขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มขึ้น โครงสร้างบริเวณผิวเปลือกตาก็เกิดความหย่อนคล้อยลง กล้ามเนื้อเปลือกตาเสียความยืดหยุ่นจากการใช้งานเป็นเวลานาน ความแข็งแรงของเปลือกตาและกล้ามเนื้อยกเปลือกตาจะลดลง ทำให้ออกแรงยกเปลือกตาได้น้อย จึงเกิดอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หนังตาตกลงมาบดบังตาดำมากกว่าปกติ จนเกิดปัญหาในการมองเห็น ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมติดการเลิกคิ้ว และริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผากก็จะตามมา
Myasthenia Gravis หรือโรค MG
โรค Myasthenia Gravis หรือโรค MG คือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน สาเหตุอันเนื่องมาจากร่างกายสร้างแอนติบอดี้บางชนิดขึ้นมายับยั้งหรือทำลายโปรตีน ที่มีบทบาทสำคัญในการรับสารอะซีทิลคอลีน ( Acetylcholine ) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาท ที่อยู่บริเวณรอยต่อระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ จนเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง
โดยอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรค MG คือ อาการกล้ามเนื้อยกเปลือกตาอ่อนแรง ทำให้เกิดภาวะหนังตาตก ลืมตาลำบาก กลอกตาผิดปกติ มองเห็นภาพซ้อน โฟกัสภาพไม่ได้ หากมองอย่างผิวเผิน ก็อาจคล้ายๆ กับภาวะตาล้า ตาแห้ง ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้มากในคนวัยทำงาน เพราะต้องใช้สายตามองหน้าจอตลอดทั้งวัน และอาจเป็นหนึ่งในต้นเหตุของจุดเริ่มต้นการเป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในที่สุด
อาการของโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เป็นอย่างไร?
สำหรับใครที่สงสัยว่าตนเองเข้าข่ายโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือไม่ ลองสังเกตอาการได้ ดังนี้
อาการหนังตาตก
หนังตาตก จะมีลักษณะตาตก ตาปรือ เพราะกล้ามเนื้อตาเปิดตาออกแรงไม่เต็มที่ ขอบตาบนจะคลุมปิดตาดำมากกว่าปกติ ในบางรายอาจถึงขั้นมีปัญหาในการมองเห็น เพราะหนังตาตกทับดวงตามากเกินไป อาการหนังตาตกสามารถเป็นได้ข้างเดียว หรือทั้งสองข้าง ทำให้ตาไม่เท่ากัน ดวงตาปรือ ตาดูง่วง ไม่สดใสตลอดเวลา
เลิกคิ้วหรือเลิกหน้าผาก
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้หนังตาตกลงมาบังตาดำบางส่วน หรือลงมาทับดวงตาดำมากเกินไปจนปิดรูม่านตา ทำให้การมองเห็นลดลง ส่งผลให้เกิดภาวะติดการเลิกคิ้ว เลิกหน้าผาก เพื่อชดเชยภาวะเปลือกตาออกแรงยกไม่ขึ้น นอกจากนี้ก็ยังเกิดปัญหาริ้วรอยย่นบนหน้าผากตามมาด้วย และยังอาจพบภาวะชั้นตาไม่เท่ากัน จากการเลิกคิ้วบ่อยๆ ได้
มักขยี้ตาบ่อย
การขยี้ตาบ่อยๆ ไม่ว่าจะมาจากการล้างเครื่องสำอางแบบรุนแรงเป็นประจำ หรือขยี้ตาเพราะคันจากอาการภูมิแพ้ ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้เปลือกตาเกิดความหย่อนคล้อย กล้ามเนื้อตายืดออก ชั้นตากลายเป็นสามชั้น หรือเปลือกตามีรอยพับที่ชั้นตาเป็นริ้วๆ ทำให้ดูตาปรือกว่าปกติ ซึ่งสามารถเกิดที่ดวงตาเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้
ลืมตาได้ไม่เต็มที่
หากเป็น กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง กล้ามเนื้อตาลีเวเตอร์ ( Levator ) ที่ทำหน้าที่ยกเปลือกตาบนจะสูญเสียความแข็งแรง ไม่สามารถออกแรงลืมตาได้อย่างเต็มที่ ลืมตาไม่ขึ้น ตาจะดูปรือคล้ายคนอดนอน บางรายอาจเป็นแค่ข้างเดียว ทำให้ตาดูไม่เท่ากัน ส่งผลต่อความสวยงามบนใบหน้า และส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพ
อาการเบ้าตาลึก
เกิดจากไขมันที่เสื่อมไปตามอายุ ร่วมกับอาการตาปรือ เนื่องจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จึงทำให้เบ้าตาดูลึกกว่าปกติ ทำให้ต้องใช้วิธีการรักษาด้วยการย้ายไขมันไปเติมที่เบ้าตาร่วมด้วย
ระดับความรุนแรงของ ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
โดยปกติแล้ว ลักษณะดวงตาของคนเรานั้น ขอบตาบนจะปกคลุมปิดตาดำลงมาไม่เกิน 1 – 2 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่หากมีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง สามารถสังเกตจากระดับของขอบตาบนได้ ดังนี้
- ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงระดับเริ่มต้น ขอบตาบนจะปิดคลุมทับตาดำลงมาเกินกว่า 2 มิลลิเมตร
- ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงระดับกลาง ขอบตาบนจะปิดคลุมทับตาดำลงมาเกินกว่า 3 มิลลิเมตร
- ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงระดับรุนแรง ขอบตาบนจะปิดคลุมทับตาดำลงมาเกินกว่า 4 มิลลิเมตร
ปล่อยไว้ ไม่รักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง มีอันตรายไหม?
คนที่มีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จะทำให้หนังตาดูตก ตาปรือมากกว่าปกติ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งหน้า ที่ทั้งลำบากและใช้เวลานานเพื่อตกแต่งรอบดวงตา หรือการสูญเสียความมั่นใจในตัวเองเวลาเข้าสังคม เสียบุคลิกภาพ และอาจเป็นอุปสรรคต่อการทำงานในบางอาชีพได้
แต่หากคนที่เป็นกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเพียงข้างเดียว หรือภาวะกล้ามเนื้อตาออกแรงได้ไม่เท่ากัน จะส่งผลให้ตาดูไม่เท่ากันตามไปด้วย ทำให้ใบหน้าโดยรวมขาดความสมดุล ดวงตาดูไม่สวยงาม ส่งผลต่อโหงวเฮ้งบนใบหน้า และเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิต ส่วนอันตรายอื่นๆ ที่อาจตามมา มีดังนี้
- คนที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมกับเบ้าตาลึก จะทำให้ดวงตาปรือมากจนสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน โดยจะปรากฏให้เห็นเป็นลักษณะร่องลึกเหนือชั้นตา ตาลึก ตาตก ส่งผลให้ใบหน้าดูง่วงโทรม อิดโรย ดูมีอายุ และดูแก่ก่อนวัย หากได้แก้ไขอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้เบ้าตาตื้นขึ้น ตาไม่ปรือ ทำให้ดวงตาดูสดใส ใบหน้าดูอิ่มและอ่อนเยาว์ขึ้น
- มองเห็นได้ไม่ถนัด เนื่องจากขอบตาอยู่ต่ำกว่าระดับปกติและปิดทับตาดำบางส่วน หรือปิดลงมาจนบังรูม่านตา จนลดประสิทธิภาพในการมองเห็นลง ทำให้ต้องพยายามเลิกคิ้วเวลามอง จนติดเป็นนิสัย ส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพ และสุขภาพดวงตาในระยะยาว
- เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก เพราะคนที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง มักติดการเลิกคิ้ว เพราะพยายามทำตาให้โตขึ้น เพื่อที่จะได้มองเห็นดีขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อหน้าผากมีการเคลื่อนไหวมากๆ เข้า ก็ส่งผลให้เกิดริ้วรอยย่นมากกว่าปกติ หรือบางคนอาจถึงขั้นมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย
4 วิธีแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ที่ใครก็ทำได้
- วิธีการบริหารกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง โดยการกลอกตาขึ้นบน และลงล่าง จากนั้นก็กลอกตาไปทางขวา และไปทางซ้าย โดยทำซ้ำๆ ประมาณ 2 รอบต่อวัน
- วิธีการปรับโฟกัสดวงตา ด้วยการใช้ปากกาหรือนิ้วมือยื่นไปทางด้านหน้า โดยให้อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางชองดวงตาทั้งสอง จากนั้นก็เลื่อนเข้าหาดวงตาอย่างช้าๆ เมื่อเห็นเป็นภาพซ้อนให้กลับไปเริ่มใหม่อีกรอบ ทำซ้ำๆ ประมาณ 20 รอบ วันละ 3 ครั้ง
- สำหรับวิธีการบริหารกล้ามเนื้อเปลือกตาตามข้อ 1 – 2 เมื่อทำเป็นประจำ ต่อเนื่องประมาณ 3 สัปดาห์ ก็จะสามารถช่วยลดอาการตาตก ตาอ่อนแรงได้
- สุดท้ายการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง โดยใช้วิธีการผ่าตัด เพื่อทำการปรับระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อยกเปลือกตาขึ้น ด้วยการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่มีความแม่นยำและปลอดภัยสูง ทำให้เลือดออกน้อยในระหว่างผ่าตัด และลดอาการบวมช้ำหลังทำ ซึ่งจะช่วยแก้ไขกล้ามเนื้อตา ให้สามารถออกแรงเปิดตาได้เต็มที่ หายตาปรือ หายตาตก ดวงตาดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
รักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่ไหนดี
การแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง โดยวิธีทางการแพทย์ เป็นการผ่าตัดกล้ามเนื้อมัดเล็กที่มีความบอบบางมากๆ ซึ่งมีเพียงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเข้าใจโครงสร้างของเปลือกตาเท่านั้น ที่สามารถทำการผ่าตัดให้กล้ามเนื้อเปลือกตาแข็งแรงขึ้นได้อย่างถูกวิธี รวมถึงปลอดภัยในระยะยาว ดังนั้นจึงควรพิจารณาเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ และแพทย์ผู้ผ่าตัดต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมจากแพทยสภา ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์และความชำนาญชั้นสูงในการรักษาตาด้วยเทคนิคเฉพาะทางโดยตรง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และสามารถแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้อย่างตรงจุด
Jarem Clinic เราคือคลินิกศัลยกรรมที่ได้มาตรฐานรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ผ่าตัดโดยจักษุแพทย์เฉพาะทางรอบดวงตา เพราะเรื่องดวงตาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และยังต้องคำนึงถึงความสวยงามของดวงตาเสมอ เพียงแอดไลน์ @jaremclinic หรือเบอร์โทรศัพท์ 091-782-0606, 02-6414091 เราพร้อมให้คำปรึกษาให้คุณอุ่นใจทุกขั้นตอนของการผ่าตัด ดูรีวิวแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเพิ่มเติมได้ที่ รีวิวศัลยกรรมกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง