
ศัลยกรรมตัดหน้าอก
ผ่าตัดหน้าอก คือส่วนหนึ่งของกระบวนการทำให้ผู้ที่มีภาวะ Gender dysphoria (GD) หรือความไม่สุขกับสรีระทางเพศแต่กำเนิด สามารถเปลี่ยนเพศจากหญิงหรือทอมให้เป็นชายได้ การตัดหน้าอกทอมส่วนใหญ่จะทำก่อนตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ โดยจะเป็นการเอาอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับเพศหญิงออก เพื่อทำให้รูปร่างของผู้เปลี่ยนเพศเป็นชาย โดยให้มีลักษณะเป็นธรรมชาติมากขึ้น และยังเป็นการช่วยเพิ่มความมั่นใจ ความพึงพอใจในการดำเนินชีวิตที่เหมาะสมกับเพศที่ต้องการเปลี่ยน
แต่ผู้ที่สนใจเข้ารับการผ่าตัดหน้าอก ก็ควรรู้ถึงขั้นตอนการผ่าตัด และเงื่อนไขการประเมินความพร้อมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ก่อนเข้ารับการตัดหน้าอก รวมถึงวิธีเตรียมตัวในการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำด้วย

การผ่าตัดหน้าอก คืออะไร?
การผ่าตัดหน้าอก ( Breast Surgery ) เป็นการทำศัลยกรรมหน้าอกเพื่อปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปร่างของหน้าอก ในบางกรณีก็เป็นการทำหน้าอกเพื่อแก้ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หรือในบางครั้งก็จะทำเพื่อความสวยงาม เช่น มีความต้องการให้มีขนาดเปลี่ยนไป หรือให้มีรูปทรงสวยงามถูกใจมากยิ่งขึ้น เทคนิคการตัดหน้าอกก็มีอยู่หลายแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการผ่าตัด รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น ความต้องการของผู้ป่วยอย่างการผ่าตัดขนาดเต้านมให้เล็กลง หรือการตัดนมออกเพื่อเปลี่ยนจากหญิงเป็นชาย ก็เป็นอีกหนึ่งความต้องการที่ผู้หญิงและทอมหลายๆ คน อยากทำเป็นตัวอย่าง

เทคนิคผ่าตัดหน้าอก
การผ่าตัดหน้าอก มีตั้งแต่แบบเล็ก ซึ่งจะเป็นเพียงการปรับเปลี่ยนขนาดหรือรูปทรง และการผ่าตัดขนาดใหญ่อย่างการผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมด โดยเทคนิคในการผ่าตัดก็มีอยู่หลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะเหมาะกับหน้าอกที่ขนาดต่างกัน
เทคนิคเปิดใต้ปานนม ( Semi Circular )
เทคนิคการเปิดใต้ปานนม ( semi-circular ) คือการตัดหน้าอก โดยการตัดไขมันและเนื้อเยื่อที่อยู่ใต้ปานนมและเต้านมออก ซึ่งวิธีการนี้เหมาะสำหรับเต้านมขนาดเล็ก และผู้ที่ผิวหนังที่ยังยืดหยุ่นได้ดี เนื่องจากแผลการผ่าตัดจะอยู่ในรูปครึ่งวงกลมที่ขอบล่างของปานนม ทำให้แผลเป็นไม่อยู่ในจุดที่สังเกตได้ง่าย แถมยังฟื้นตัวได้ดี จึงมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ไม่สามารถใช้กับเต้านมขนาดใหญ่ และเต้านมที่มีผิวหนังส่วนเกินมากได้ เนื่องจากผิวหนังส่วนเกินอาจทำให้แผลคล้อยและหย่อนหลังผ่าตัด ซึ่งอาจทำให้รูปร่างดูไม่สวยงามได้
เทคนิคแบบ Double O
การผ่าตัดหน้าอกแบบ Double O คือการศัลยกรรมเพื่อลดขนาดหน้าอก โดยการเปิดแผลปานนมเป็นวงกลมและผ่าตัดเนื้อเต้านมรอบนอกที่เป็นส่วนเกินออก จากนั้นจะทำการดึงผิวหนังเข้ามาเย็บกับปานนม เทคนิคการผ่าตัดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกใหญ่ และต้องการลดขนาดหน้าอก โดยไม่ทำให้เกิดแผลเหี่ยวย่นหรือเป็นแผลเปิด โดยต้องการผิวหนังที่ยืดหยุ่น วิธีการนี้เป็นวิธีที่พบได้บ่อยและเป็นที่นิยมในการผ่าตัดหน้าอกของทอม หรือหญิงที่ต้องการแปลงเพศ
เทคนิคแบบแผลรูปตัวยู ( U - Scar )
วิธีการผ่าตัดหน้าอกทอม ( Top Surgery ) หรือหญิงที่ต้องการแปลงเพศให้เป็นชายแบบ U – Scar เหมาะสำหรับเต้านมขนาดเล็ก และผิวหนังยืดหยุ่นดี โดยการศัลยกรรมจะเริ่มต้นด้วยการเปิดแผลที่ปานนมเป็นรูป U แล้วทำการตัดเนื้อเต้านม ที่เป็นส่วนเกินออก ต่อมาผิวหนังจะถูกดึงเข้ามาเย็บกับแผลปานนม เทคนิคการผ่าตัดแบบนี้จะทำให้หน้าอกดูแบนราบและยังคงมีประสาทความรู้สึกเหมือนเดิม ระยะเวลาในการผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง และจำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 2 วัน หลังจากผ่าตัด และต้องรอจนกว่าแผลจะหายและสามารถกลับไปดูแลตัวเองได้อย่างปลอดภัยประมาณ 7 วันหลังจากผ่าตัด
เทคนิคแบบแผลรูปตัวโอ ( O - Scar )
วิธีการผ่าตัดหน้าอก เพื่อเปลี่ยนเป็นเต้านมชาย โดยใช้เทคนิคแผลรูปตัวโอ ( O – Scar ) เหมาะสำหรับผู้ที่มีเต้านมขนาดกลาง ขนาดที่เหมาะสมที่สุดคือ คัฟ บี – ซี โดยผู้ที่ต้องการผ่าตัดจะต้องมีผิวหนังที่ยืดหยุ่นดีและมีผิวหนังเหลืออยู่พอสมควร เมื่อผ่าตัดแล้ว ศัลยแพทย์จะเลือกเปิดแผลอยู่ที่รอบๆ ปานนม โดยใช้แผลรูปตัวโอเพื่อตัดเนื้อนมออกให้หมด พร้อมกับตัดผิวหนังส่วนเกินออกรอบๆ ปานนม และดึงผิวหนังเข้ามาเพื่อเย็บที่ตำแหน่งรอบๆ ปานนม การใช้เทคนิคแบบนี้จะทำให้หน้าอกแบนราบและยังคงมีประสาทความรู้สึกอยู่บ้าง ไม่ได้อยู่ในระดับเต็มที่เท่าเดิม ระยะเวลาในการผ่าตัดจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง และผู้ป่วยต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 2-3 วัน การตัดไหมจะต้องทำหลังผ่าตัดประมาณ 7 วัน
เทคนิคเปิดใต้ฐานหน้าอก
การเปิดแผลใต้ฐานหน้าอก เป็นวิธีศัลยกรรมตัดหน้าอกที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย สำหรับคนที่มีขนาดหน้าอกปานกลางประมาณ คัพ B และมีหน้าอกไม่ผิดรูปหรือหย่อนคล้อยมากนัก การเปิดแผลใต้ฐานหน้าอกนั้นเป็นเทคนิคดั้งเดิมที่จะมีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลม โดยจะทำการตัดเอาส่วนที่ไม่ต้องการออก แล้วทำการเย็บแผลเข้าด้วยกัน โดยเทคนิคนี้จะช่วยลดขนาดหน้าอกได้ โดยไม่ทำลายรูปร่างหรือรูปร่างหน้าอกเดิม โดยสามารถกลับไปทำงานได้ภายในเวลาไม่นานหลังการผ่าตัด
เทคนิคแบบย้ายหัวนม ( Double Incision Scar )
เทคนิคการตัดหน้าอกแบบย้ายหัวนม ( Double Incision Scar ) เป็นวิธีที่ใช้เมื่อเต้านมมีขนาดใหญ่และหย่อนคล้อย โดยจะเป็นการศัลยกรรมตัดหน้าอกทั้งหมด และตัดแต่งผิวหนังส่วนที่เหลือออกตามแนวแผลยาวใต้ราวนม จากนั้นก็จะกำหนดตำแหน่งและขนาดของหัวนมที่จะนำมาวางใหม่ และทำการตัดย้ายหัวนมเดิมมาเย็บติดที่ตำแหน่งที่กำหนด ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นหน้าอกที่แบนราบ ซึ่งอาจมีการสูญเสียประสาทความรู้สึกบนผิวหนังหรือหัวนมได้บ้าง แต่มีโอกาสน้อยที่จะเกิด เทคนิคการตัดเต้านมแบบนี้ จะใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง และต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 3 วัน หลังจากผ่าตัด ในการตัดไหมขึ้นอยู่กับสภาพของผู้ป่วยและความเหมาะสมของกระบวนการผ่าตัดกับสภาพผิวหนังและหน้าอกของผู้ป่วยด้วย นอกจากนั้นแล้วการผ่าตัดวิธีนี้ยังนิยมในการแก้ไขหน้าอกสำหรับผู้ที่ไม่พอใจตำแหน่งหัวนมได้ด้วย

ขั้นตอนผ่าตัดหน้าอก
ขั้นตอนของการผ่าตัดหน้าอก เพื่อเปลี่ยนเพศหญิงหรือทอมให้เป็นชาย ประกอบด้วยหลายขั้นตอนที่ต้องทำให้เรียบร้อยและปลอดภัยสำหรับผู้เข้ารับการผ่าตัด โดยการผ่าตัดนี้จะต้องเป็นไปตามวิธีที่ศัลยแพทย์เห็นว่าเหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยขั้นตอนที่เกี่ยวข้องมีดังนี้
- ดมยาสลบ ศัลยแพทย์จะให้ยาสลบผู้เข้ารับการผ่าตัด เพื่อให้คนไข้หลับในระหว่างการผ่าตัดและไม่รู้สึกตัวอะไร หรืออาจจะใช้วิธีการอื่นๆ ที่เหมาะสมตามความเห็นของศัลยแพทย์
- ศัลยแพทย์อาจจะวาดตำแหน่งต่างๆ บนเต้านม ในกรณีที่ต้องมีการผ่าตัดแก้ไขตำแหน่งหรือรูปทรงของนม
- การตัดเต้านม โดยศัลยแพทย์จะเริ่มต้นด้วยการผ่าตัดเพื่อเปิดแผลที่เต้านมของผู้เข้ารับบริการเพื่อให้สามารถเลาะเนื้อเต้านมออกได้หมด
- หากมีผิวหนังส่วนเกินจะตัดแต่งให้เรียบร้อย และใส่สายยางเพื่อระบายเลือดเสียและน้ำเหลืองที่บาดแผลออกจากหน้าอกข้างละ 1 เส้น แต่การใส่สายระบายจะใช้ในกรณีตัดเนื้อหน้าอกออกเยอะๆ
- การเย็บแผล ศัลยแพทย์จะเย็บแผลโดยซ่อนแผลเป็นไว้ใต้รักแร้ จากนั้นจึงเย็บปานนมปิดดังเดิม แล้วพันผ้ารัดหน้าอกแบบหลวมๆ ไม่แน่นจนเกินไป
- พักฟื้นหลังจากผ่าตัดหน้าอกเสร็จ หลังการผ่าตัด คนไข้จะต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 2 วัน หรือตามที่ศัลยแพทย์เห็นว่าเหมาะสม

วิธีดูแลตัวเองก่อนและหลังผ่าตัดหน้าอก
ก่อนการผ่าตัดหน้าอกก็มีสิ่งที่ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเพื่อให้การผ่าตัดออกมาผลลัพธ์ดี ส่วนการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเองก็จะเป็นสิ่งที่สำคัญในการฟื้นตัวอย่างถูกต้อง ปลอดภัย แผลจะได้หายไว และไม่มีผลข้างเคียง โดยขั้นตอนก็จะมีดังนี้
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดหน้าอก
เพื่อให้การผ่าตัดประสบความสำเร็จและไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ ก่อนการผ่าตัดให้ครบถ้วน
- ควรหยุดรับประทานวิตามินซีและวิตามินอี รวมทั้งหยุดใช้ฮอร์โมนเพศตรงข้ามเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน
- ควรหยุดรับประทานยาประเภทแอสไพริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และยาลดการอักเสบบางชนิดเช่นกัน อย่างน้อย 14 วันก่อนการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะเลือดออกระหว่างการผ่าตัด
- ควรหยุดสูบบุหรี่เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วันก่อนการผ่าตัด เพื่อให้เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงแผลได้ดี ลดโอกาสการเกิดภาวะเนื้อตายในช่วงการผ่าตัด
- แนะนำให้ลาหยุดงานประมาณ 3-5 วัน เพื่อเตรียมเวลาที่จะได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอทั้งในโรงพยาบาลและที่บ้าน
- ในเวลา 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด ควรงดอาหารและน้ำ
- เตรียมเสื้อเชิ้ตหลวมๆ ที่ใส่ง่ายไว้เมื่อเวลาออกจากโรงพยาบาล
วิธีดูแลตัวเองหลังผ่าตัดหน้าอก
เพื่อให้การพักฟื้นจากการศัลยกรรมตัดหน้าอกประสบความสำเร็จ และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้หลังการผ่าตัดให้ครบถ้วน
- ล้างแผลให้สะอาดตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ และทำแผลทุกวัน โดยใช้ยาที่ให้ทาแผล เช้า-เย็น แล้วพันผ้าทับทุกครั้ง
- กินยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด ยาลดบวม ตามที่ศัลยแพทย์สั่งและตามอาการที่มี
- ไม่ควรขับรถเองประมาณ 5-7 วัน หลังการผ่าตัด
- จะมีผ้าพันหน้าอกและสายยางระบายเลือดน้ำเหลืองออกจากหน้าอกข้างละ 1 เส้น เพื่อระบายเลือดและน้ำเหลืองออกจากหน้าอกและป้องกันการเกิดเลือดคั่งระหว่างการพักฟื้น สายยางระบายจะติดอยู่กับตัวจนน้ำเหลืองหมดและไม่มีเลือดออก จากนั้นศัลยแพทย์จึงจะทำการถอดสายยางระบายออก
- ระหว่างรอตัดไหม หากมีเลือด หรือน้ำเหลืองซึมออกมาจากแผล หรือมีอาการบาดแผลบวมแดง ปวด หรือแสบร้อน หรือมีไข้ร่วมด้วย ควรรีบไปพบศัลยแพทย์โดยทันที
- เมื่อครบกำหนด 7 วัน ศัลยแพทย์จะนัดมาดูแผล ในกรณีที่แผลสมานตัวได้ดีก็จะตัดไหมได้เลย แต่หากแผลมีขนาดใหญ่ต้องรอให้แผลมีอาการดีขึ้นก่อนซัก 10-14 วัน ค่อยตัด
- หลังการตัดไหม ศัลยแพทย์จะปิดพลาสเตอร์ที่บริเวณรอยเย็บ เพื่อช่วยให้แผลหายสนิทและป้องกันการเปิดของแผล
- หลังตัดไหมประมาณ 1-2 สัปดาห์ แผลจึงจะโดนน้ำได้ แต่ไม่ควรใช้แรงในการถูหรือขัดบริเวณแผลผ่าตัด เพราะอาจจะทำให้แผลเปิดได้
- ควรใส่เสื้อที่กระชับบริเวณหน้าอกเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อช่วยให้ผิวหนังบริเวณหน้าอกไม่เหี่ยวย่น
ใครที่ผ่าตัดหน้าอกได้
ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดหน้าอก เปลี่ยนจากหญิงเป็นชาย จะต้องผ่านการประเมินสภาพจิตใจจากจิตแพทย์อย่างน้อย 2 ท่านก่อนว่าผู้เข้ารับบริการมีภาวะ “Gender dysphoria (GD)” หรือเป็นผู้ที่ไม่มีความสุขกับสรีระทางเพศ สำหรับการตรวจประเมินครั้งที่ 2 จะมีคำแนะนำว่าควรจะตรวจประเมินใกล้กำหนดการผ่าตัดได้จะดี เพื่อให้ผู้รับบริการได้มีเวลาตัดสินใจ และทบทวนอีกครั้งก่อนการผ่าตัดจริง
นอกจากนี้ผู้รับการผ่าตัดยังต้องมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน ได้แก่
- อายุ 20 ปีบริบูรณ์ หากมีอายุ 18 ปี ขึ้นไป แต่ยังไม่ถึง 20 ปี ต้องมีหนังสือรับรองจากผู้ปกครองอนุญาตให้ทำการผ่าตัดได้
- ต้องทดลองใช้ชีวิตในแบบเพศตรงข้ามมาแล้วอย่างน้อย 1 ปี
- ร่างกายและสุขภาพแข็งแรง
- ไม่มีภาวะหรือโรคทางจิตเวช
เพื่อประเมินความพร้อมต่างๆ ผู้เข้ารับบริการสามารถติดต่อโรงพยาบาล หรือสถานพยาบาล เพื่อทำการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดได้ เช่น ตรวจเลือด เช็คการทำงานของไตปอด และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ โดยเฉพาะการตรวจหน้าอก เพื่อดูสภาพเต้านม และใช้ข้อมูลมาประเมินคำแนะนำของแพทย์ในการผ่าตัดหน้าอกอีกครั้งถึงเทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสม รวมทั้งผลลัพธ์ และความเสี่ยงต่างๆ ด้วย

ผ่าตัดหน้าอกที่ไหนดี
การผ่าตัดหน้าอกทอม ( Top Surgery ) จากหญิงหรือทอมให้เป็นชาย เป็นการผ่าตัดที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งการผ่าตัดหน้าอกก็จะมีเทคนิคอย่างหลากหลาย แต่ควรหาข้อมูลให้ดีทั้งศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์และสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ราคาที่คุ้มค่าและมีความเสี่ยงน้อยที่สุดต่อการผ่าตัดนม ผ่าตัดหน้าอกที่ไหนดี Jarem Clinic เราก็มีบริการที่พร้อมให้คำปรึกษา แนะนำ ก่อนตัดสินใจทำ